วงการตำรวจฉาวโฉ่ ส.ต.อ.นอกรีตใช้รถกระบะภาค 2 ลอบขนบุหรี่เถื่อน ดวงซวยรถเสียหลักชนเสาไฟส่องสว่างได้รับบาดเจ็บ สอบพบปั๊มกุญแจนำรถราชการเดินทางกลับบ้านที่ จ.ตราด ขากลับแอบซุกบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีถึง 300 แท่ง แฉประวัติสมัยอยู่โรงพักคลองใหญ่เคยทำผิดแบบเดียวกันมาแล้ว ถูกโยกไปอยู่ฝ่ายอำนวยการภาค สุดท้ายกลับใช้รถหลวงทำผิดซ้ำ ผบช.ภ.2 สั่งเชือดให้ออกราชการทันควัน ลั่นนิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้งผบช.ภ.2 สั่งเชือดทันควัน ส.ต.อ.นอกรีตใช้รถหลวงลอบขนบุหรี่เถื่อนจนรถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ก.พ. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 เปิดเผยถึงกรณีตำรวจสังกัด บช.ภ.2 ใช้รถกระบะตราโล่ติดสติกเกอร์ภาค 2 ขนบุหรี่เต็มคันรถประสบอุบัติเหตุใน จ.ตราด ว่า จากการตรวจสอบทราบชื่อตำรวจที่เป็นผู้ขับขี่คือ ส.ต.อ.เอกพจน์ นิยม อายุ 37 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ฝ่ายอำนวยการ 3 กองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ ส.ต.อ.เอกพจน์ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุมาจากหลับใน และพบบุหรี่ไม่มีอากรแสตมป์จำนวนมากอยู่ในรถจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดที่มาของบุหรี่ดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นบุหรี่ลักลอบไม่เสียภาษีสรรพสามิต“หลังเกิดเหตุสั่งให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาโดยด่วน รวมถึงการใช้รถของราชการ หากเป็นความผิดทางอาญาเข้าข้อกฎหมายใดจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และในทางปกครองตนมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน จะไม่ยอมให้ตำรวจที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทำผิดเสียเองมีที่ยืนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากเจตนาใช้รถของทางราชการเพื่ออำพรางให้สะดวกในการก่อเหตุทำผิดกฎหมายยิ่งเป็นสิ่งที่ผิด ไม่มีการละเว้นช่วยเหลือแน่นอน หากเป็นนิ้วร้ายก็ต้องตัดทิ้ง” ผบช.ภ.2กล่าวเหตุตำรวจนำรถกระบะตราโล่ไปกระทำผิดกฎหมายบรรทุกบุหรี่เถื่อนประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่วงการสีกากีรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 16 ก.พ. พ.ต.อ.มนตรี จินะ ผกก.สภ.บ้านท่าเลื่อน จ.ตราด รับรายงานอุบัติเหตุรถกระบะตราโล่ของตำรวจเสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่าง มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิทใกล้วัดท่าเส้น ฝั่งขาออกเมืองตราด ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด นำกำลังไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยหลักเกาะจังหวัดตราดที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู ทะเบียนตราโล่ 29533 ข้างรถติดสติกเกอร์ “ภ.2” ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ ส.ต.อ.เอกพจน์ นิยม อายุ 37 ปี รับราชการอยู่่ฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) มีอาการเจ็บหลังและแน่นหน้าอก หน่วยกู้ภัยช่วยปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตราด ในที่เกิดเหตุพบเสาไฟส่องสว่างบนเกาะกลางถนนถูกชนล้มเสียหาย 1 ต้น ภายในรถพบบุหรี่ในห้องโดยสารและด้านท้ายกระบะจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในถุงดำและลังพลาสติกอีกชั้น รวมทั้งหมด 300 แท่ง หรือ 3,000 ซอง เจ้าหน้าที่ประสานสรรพสามิตจังหวัดตราดตรวจสอบบุหรี่พบว่าไม่มีอากรแสตมป์ ยึดเป็นของกลางพ.ต.อ.มนตรี จินะ ผกก.สภ.บ้านท่าเลื่อน เปิดเผยว่า ตรวจสอบพบของกลางทั้งหมดเป็นบุหรี่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ผ่านกระบวนการเสียภาษี ตำรวจประสานสรรพสามิตเพื่อดำเนินคดีกับตำรวจนายดังกล่าว ปัจจุบันรับราชการอยู่สำนักงานตำรวจ ภูธรภาค 2 ส่วนรถกระบะคันที่ใช้บรรทุกบุหรี่เป็นรถทางราชการตำรวจเช่นเดียวกัน ตรวจสอบพบว่า ส.ต.อ.เอกพจน์ คนขับเคยรับราชการอยู่ สภ.คลองใหญ่ จ.ตราด ส่วนเรื่องการลักลอบขนบุหรี่เถื่อนต้องรอให้ตำรวจสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อนว่านำเข้ามาจากที่ใดผกก.สภ.บ้านท่าเลื่อน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ส.ต.อ.เอกพจน์ เคยมีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะเดียวกันมาแล้วตอนที่รับราชการอยู่ สภ.คลองใหญ่ ถูกดำเนินการทางการปกครองจาก สภ.คลองใหญ่ ย้ายไปอยู่ภาค 2 แต่ทางครอบครัวอยู่ อ.คลองใหญ่ ส.ต.อ.เอกพจน์มีชื่อทะเบียนบ้านอยู่ อ.คลองใหญ่ ประกอบกับวันเกิดเหตุมีการเลือกตั้งนายก อบต.ในพื้นที่และเลือกตั้งซ่อม ได้ขับรถคันดังกล่าวเดินทางกลับบ้านและคงถือโอกาสขนบุหรี่กลับไปด้วย ส่วนรถหลวงที่ใช้กระทำความผิดสืบสวนทราบว่าปั๊มกุญแจมา แต่ไม่ทราบว่าขออนุญาตใช้รถถูกต้องหรือไม่ต่อมาสายวันเดียวกัน พล.ต.ต.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย ผบก.ภ.จ.ตราด ลงพื้นที่ไปติดตามคดีดังกล่าวที่ สภ.บ้านท่าเลื่อน มี พ.ต.อ.มนตรี จินะ ผกก.สภ.บ้านท่าเลื่อน รายงานความคืบหน้าพร้อมกำชับให้ทำคดีตรงไปตรงมาอย่างเด็ดขาด จากนั้นพนักงานสอบสวนเดินทางแจ้งข้อกล่าวหา ส.ต.อ.เอกพจน์ ที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตราดตามความผิด พ.ร.บ.สรรพสามิต และ พ.ร.บ.ศุลกากร รวมถึงให้สอบเอาผิดกรณีรถยนต์ราชการไปกระทำความผิดจนกระทั่งประสบอุบัติเหตุอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่