ญาตินักบินและผู้ช่วยนิมนต์พระเชิญดวงวิญญาณเหยื่อเที่ยวบินมรณะกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่วัด ปลัดอำเภอบางปะกงสั่งปิดล้อมกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมส่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเฝ้าพื้นที่ 24 ชั่วโมง ห้ามใครเข้าไปเก็บค้นหาสิ่งของ รอบริษัทเจ้าของเครื่องบินจัดทีมกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ เข้าไปกู้ซากเครื่องขึ้นจากหล่มโคลนลึก “ผบช.สพฐ.ตร.” เผยรู้ผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้ว 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด ส่วนอีก 5 ราย เป็นชาวจีน รอญาติมาตรวจเก็บดีเอ็นเอจากอุบัติเหตุระทึกขวัญ กรณีเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก เที่ยวบินที่ TFT209 แบบเครื่อง Cessna caravan C208 ทะเบียน HSSKR ของบริษัทไทย ฟลายอิ้ง เซอร์วิส จำกัด มีนักบิน 2 คน และผู้โดยสาร 7 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เวลา 14.46 น. ปลายทางสนามบินเกาะไม้ซี้ (ใกล้เกาะกูด) จ.ตราด เพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าพักในโรงแรมโซเนวา คีรี เกาะกูด ระหว่างทางเครื่องบินดิ่งหัวควงสว่านปักลงหล่มโคลนป่าชายเลนหลังวัดเขาดิน หมู่ 6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ความลึกกว่า 5 เมตร นักบินและผู้โดยสารเสียชีวิต ยกลำ รวม 9 ศพ การกู้ศพเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีพื้นที่จำกัดและระดับน้ำขึ้น-ลงทุกวันประกอบกับร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพแหลกเละ เหลือเพียงชิ้นเนื้อให้ส่งไปตรวจอัตลักษณ์บุคคลก่อนมอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลความคืบหน้าในการค้นหาร่างเหยื่อเครื่องบินตก เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเครื่องบินตกบริเวณป่าชายเลนหลังวัดเขาดินหมู่ 6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง พบว่า ครอบครัวของ ร.อ.อนุชา เดชอภิรักษ์ชน อายุ 61 ปี นักบิน และครอบครัวของนายพรศักดิ์ โตทับ อายุ 30 ปี ผู้ช่วยนักบิน เครื่องบินเล็กเที่ยวบินมรณะได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณไปวัด เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้านายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช อายุ 33 ปี เพื่อนร่วมงาน ของนักบินทั้ง 2 นายเปิดเผยว่า เครื่องบินลำที่ตก ถ้าจะทำให้เครื่องดับได้อย่างเดียวเลยคือน้ำมันหมด ณ ที่เกิดเหตุ แต่ฟังจากเสียงกล้องวงจรปิดหรือเสียงของชาวบ้านละแวกเกิดเหตุ ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุเครื่องยนต์ยังไม่ดับ ที่ทุกคนพูดว่ามันระเบิดคือเป็นเสียงจังหวะที่มันชนกับพื้นแล้วอาจจะมีแรงกระแทก แบบแตกกระจายออกมามากกว่า เชื่อว่าถ้าระเบิดตั้งแต่บนอากาศมันไม่ใช่เรื่องจริง มั่นใจว่าเครื่องยนต์ทำงานถึงพื้นดิน และมีกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นลักษณะมีวัตถุร่วงลงมา คาดว่าเครื่องบินควบคุมไม่ได้มากกว่า ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงคงต้องรอผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ทราบต่อไปนายคเชนทร์ เที่ยงมณี ปลัดอำเภอบางปะกง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า ตอนนี้พื้นที่เกิดเหตุได้ถูกปิดกั้นทั้งหมดแล้ว เป็นพื้นที่หวงห้าม ตามกฎอากาศยานหรือส่วนของอากาศยาน และสิ่งที่อากาศยานนั้นบรรทุกมาอยู่ในการพิทักษ์อากาศยาน ห้ามมิให้บุคคลใดปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแก่อากาศยานหรือส่วนของอากาศยานหรือสิ่งที่อากาศยานนั้น บรรทุกมา เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ได้จัดกำลัง อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าพื้นที่ไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปเก็บสิ่งของในที่เกิดเหตุ ส่วนซากเครื่องบินถูกนำไปเก็บรักษาที่กองพันทหารช่างที่ 2 รอ. ค่ายศรีโสธร จ.ฉะเชิงเทรา รอบริษัทเจ้าของเครื่องบินมาเคลื่อนย้ายต่อไป พร้อมรอบริษัทประกันภัยของบริษัทเจ้าของเครื่องบินมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ส่วนการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตและซากเครื่องบินเพิ่มเติม เป็นหน้าที่ของบริษัทเจ้าของเครื่องบิน ต้องจัดหาอุปกรณ์กู้ภัยที่เหมาะสมเข้ามาดำเนินการและเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองวันเดียวกัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าการพิสูจน์อัตลักษณ์ ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางอากาศเครื่องบินเล็กตกในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตได้แล้ว 4 คน ทั้งหมดเป็นคนไทย ได้แก่ นักบิน ผู้ช่วยนักบิน และลูกเรือ 2 คน เนื่องจากทั้ง 4 คนมีประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือที่ชัดเจนในระบบตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ หรือ AFIS ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ มีการพิสูจน์จากมือและฝ่าเท้า ถ้าให้ประเมินความคืบหน้าถือว่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ในส่วนของการจัดเก็บ DNA อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์จากชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่ถูกส่งมาที่นิติเวช รพ.ตำรวจพล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า สำหรับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีก 5 รายที่เหลือ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งประสานญาติผู้โดยสารที่เป็นชาวจีน เพื่อตรวจเก็บ DNA พิสูจน์ทราบและยืนยันตัวบุคคล เจ้าหน้าที่มีรายชื่อของผู้โดยสารและนักบินที่อยู่บนเครื่องทั้งหมดแล้ว แต่ยอมรับว่าการทำงานค่อนข้างเป็นไป ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจำนวนชิ้นส่วนที่ถูกส่งมามีมากกว่า 90 ชิ้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบคอบ และยืนยันผลดีเอ็นเอที่พบให้แน่ชัด จะแถลงผลความคืบหน้าการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 26 ส.ค.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
