หนุ่มวัย 46 อดีตเมสเซนเจอร์ ตามง้อแฟนสาวไปติดพันสาวหล่อร้าน “ฉิมพลีทอมบอย” ย่านถนน สุรวงศ์ เกิดมีปากเสียงกับคนในร้านจนต้องโทร.แจ้งตำรวจระงับเหตุ พบชายอาการคล้ายมึนเมา อ้างเป็นตำรวจสืบสวนอยู่ บก.น.6 แต่เมื่อพบว่าไม่ใช่ขอตรวจค้น เจ้าตัวเลยใช้ปืนสาดกระสุนใส่ก่อนถูกยิงสวนกลับร่างพรุน 6 นัด ด้านพี่ชายโวยตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ขณะที่ ผกก.สน.บางรัก ยันวงจรปิดเห็นชัดผู้เสียชีวิตนำปืนขึ้นมายิงก่อน เจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนาวิสามัญฯ ชี้ญาติมีสิทธิสงสัยได้แต่ก็ให้เป็นไปตามพยานหลักฐานวิสามัญหนุ่มคลั่งหลังมาง้อแฟนสาวหนีไปกับสาวหล่อไม่สำเร็จ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 15 ส.ค. พ.ต.ท.ศักดิ์นรินทร์ ตรัสสุภาพ สว.(สอบสวน) สน.บางรัก รับแจ้งมีเหตุยิงกันหน้าร้าน ฉิมพลีทอมบอย บางกอก ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุอยู่กลางซอย พบศพนายมงคล กมลสวัสดิ์ อายุ 46 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์สามส่วน ถูกยิงเข้าใต้ราวนมซ้าย กลางลำตัว ใต้สะดือ และด้านหลังรวม 6 นัด ใกล้กันพบปืน 9 มม. ออโตเมติก ตกอยู่ 1 กระบอก มีกระสุนในแมกกาซีน 5 นัด และค้างในรังเพลิงอีก 1 นัด หน้าร้านพบ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1ขจ 1980 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดเปิดเบาะท้าย บริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนและหัวกระสุนปืนกระจายเกลื่อนอีกกว่า 10 จุด เก็บไว้เป็นหลักฐานส่วนผู้ก่อเหตุเป็นสายตรวจนอกเครื่องแบบ สน.บางรัก 2 นายยืนรอมอบตัว และร่วมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรับแจ้งจากพนักงานในร้านฉิมพลีฯ มีชายเมาสุราอาละวาดหน้าร้าน เมื่อไปตรวจสอบพบชายดังกล่าวอาละวาดจริง โดยจอดรถ จยย.อยู่หน้าร้าน ได้ขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายใต้เบาะรถแต่ไม่พบ เมื่อขอตรวจค้นตัวนายมงคลกลับชักปืนออกมายิงใส่ไม่ยั้งจนต้องหลบ และยิงตอบโต้จนนายมงคลเสียชีวิต จากนั้นพนักงานสอบสวนนำตัวตำรวจทั้ง 2 นายไปที่ สน.บางรัก ตรวจคราบเขม่าดินปืนและลายนิ้วมือบนปืนทั้ง 2 กระบอก รวมทั้งพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ตรวจสอบเปรียบเทียบกับคำให้การต่อไป ขณะที่ศพผู้ตายนำส่งนิติเวช รพ.ตร.ผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไปต่อมาช่วงสายที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ นายสุขสม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี พี่ชายนายมงคลผู้ตายพร้อมครอบครัวนำเอกสารมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดวงแข ถนนจารุเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. นิมนต์พระวัดดวงแข 1 รูป ทำพิธี ท่ามกลางความโศกเศร้า แพทย์ระบุสาเหตุการตายกระสุนปืนทำลายหัวใจและตับนายสุขสมกล่าวว่า น้องชายเป็นพนักงานส่งเอกสารเพิ่งออกจากงานได้ 3 เดือน มีลูกกับแฟนเก่า 4 คน แต่แฟนคนปัจจุบันที่คบหากัน 7 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนมูลเหตุเกิดจากน้องชายจับได้ว่าแฟนสาวเป็นพีอาร์มาติดพันสาวทอมที่ร้านเกิดเหตุ ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกันจนแฟนสาวหนีออกจากบ้าน น้องชายไปตามง้อที่ร้านอยู่บ่อยครั้ง คาดว่าวันนี้ตามไปเจอจึงเกิดเรื่อง ส่วนปืนที่พบเป็นของน้องชายหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ตำรวจทำแปลกไม่ยอมให้ญาติเข้าไปดูศพ ห้ามถ่ายรูป อยากถามว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ สำหรับน้องชายเคยมีคดีร่วมกันฆ่าเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ศาลยกฟ้องแล้ว ส่วนตัวสงสัยว่าขณะเกิดเหตุกู้ภัยไม่ได้แจ้งเหตุทางวิทยุรวมถึงนักข่าวไม่ทราบเหตุนี้ สงสัยตำรวจจะปิดข่าวหรือไม่ และรู้สึกสงสัยทำไมเหตุที่น้องชายถูกวิสามัญฯใจกลางกรุงแบบนี้เรื่องถึงเงียบ มีการกันพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง อย่างไรก็ตาม หากน้องชายเป็นคนยิงตำรวจก่อนก็ว่าไปตามผิดอีกด้านหนึ่งที่ สน.บางรัก พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก กล่าวถึงคดีนี้ว่า เมื่อคืนนี้ ผู้เสียชีวิตไปตามหาแฟนสาวเป็นพีอาร์อยู่ที่ร้านคาราโอเกะย่านสถานบันเทิงธนิยะ แต่มาเที่ยวที่ร้านบาร์โฮส เพราะก่อนหน้านี้จับได้ว่าแฟนสาวไปติดพันทอมจึงไล่ออกจากบ้าน ต่อมาได้ไปตามหาแฟนสาวที่ทำงานไม่เจอ คิดว่าจะมาเที่ยวกับทอมที่นี้ ได้มาตามหาแล้วครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้แต่ไม่พบ ที่ร้านบอกว่าถ้ามาแล้วโวยวายไม่ต้องมาอีก เมื่อคืนผู้เสียชีวิตกลับไปอีก ทางร้านแจ้งสายตรวจเดินเท้าเป็นชุดนอกเครื่องแบบเพราะเป็นชุดดูแลความสงบเรียบร้อยในสถานบันเทิง ไประงับเหตุโดยไปกัน 4 คน นอกเครื่องแบบ 2 นาย ในเครื่องแบบ 2 นายพ.ต.อ.ธรรมศักดิ์กล่าวต่อว่า เมื่อไปถึงได้พูดคุยกับผู้เสียชีวิต ตอนแรกเจ้าตัวอ้างเป็นตำรวจสืบสวนอยู่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เมื่อตรวจสอบพบไม่ใช่ตำรวจจริงไปตรวจค้นรถจักรยานยนต์แต่ไม่พบ และจะขอตรวจค้นตัวผู้เสียชีวิตไม่ยอม เดินหนีออกไป ตำรวจอีก 2 คนในเครื่องแบบเดินตามและเรียกให้หยุด ผู้เสียชีวิตกลับหันมาชักปืนสไลด์ขึ้นลำ และถูกผู้เสียชีวิตยิงก่อนทันที 3 นัด จนตำรวจทั้งคู่ต้องหาที่หลบกระสุน ขณะที่ตำรวจนอกเครื่องแบบอีก 2 คนที่อยู่ที่รถจักรยานยนต์เห็นใช้ปืนมาระงับเหตุ ยืนยันไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ ภาพจากวงจรปิดเห็นชัดเจนผู้เสียชีวิตนำปืนขึ้นมายิงก่อน เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเจตนาวิสามัญ ในตอนนั้นต้องพยายามยิงให้หยุด เมื่อผู้เสียชีวิตไม่ยอมหยุดต้องยิงจนกว่าจะหยุด ไปโดนจุดสำคัญจนถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้ญาติมีสิทธิที่จะสงสัยได้แต่ก็ให้เป็นไปตามพยานหลักฐานผกก.สน.บางรักกล่าวอีกว่า กรณีญาติระบุไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตมีปืน แต่แฟนสาวผู้ตายให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตวิดีโอคอลไปหาพร้อมโชว์ปืนขู่ว่าถ้าไม่กลับมาหาจะฆ่าตัวตาย ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ปิดกั้นญาติผู้ตายเข้าไปในที่เกิดเหตุ ตนเป็นคนพาญาติเข้าไปดูศพ แต่ขอความร่วมมือไม่ให้ถ่ายรูป ตอนนั้นมีทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวช อัยการ ฝ่ายปกครองที่เป็นพยานอยู่ เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสงสัยทำไมไม่ใช้ปืนไฟฟ้า พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตใช้ปืนไม่ใช่มีด ยิงออกมาหากโดนก็ถึงแก่ชีวิตได้ ตอนนั้นตำรวจไม่มีทางเลือกอื่น ส่วนปืนไฟฟ้าไม่ได้เตรียมการเพราะตำรวจเข้าไปเพื่อระงับเหตุได้รับแจ้งว่าเป็นการมาตามหาแฟนเท่านั้นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่