ชุดสืบสวนนครบาล 7 ขยายผลทลายโรงงานผลิตยาแก้แพ้ปลอม หลังเจ้าของผลิตภัณฑ์พบยาเลียนแบบติดฉลากยี่ห้อบริษัทวางขายเกลื่อนร้านขายยาทั่วไป ก่อนแจ้งความตำรวจสืบหาที่มา พบแหล่งผลิตอยู่ในสวนผลไม้ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นำกำลังลุยค้นเจอเครื่องจักรเพียบ ยึดยาแก้แพ้ติดฉลากพร้อมส่ง 12,000 ขวด คุมตัวหนุ่มเจ้าของโรงงานและผู้ดูแลดำเนินคดีตำรวจนครบาลตามขยายผลลุยค้นโรงงานผลิตยาแก้แพ้ปลอมย่านไทรน้อย จ.นนทบุรี เสียหายกว่า 100 ล้านบาท เปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.อ.ไตรรัตน์ เพ็งนู ผกก.สส.บก.น.7 พร้อมกำลังคุมตัวนายฐนกฤต หรือมี่ อภิมหาเจริญไพศาล อายุ 37 ปี เจ้าของโรงงานผลิตยาแก้แพ้ปลอม และนายทวีศักดิ์ หรือเอส คำภูผา อายุ 25 ปี ผู้ดูแลโรงงาน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ดำเนินคดี หลังจากชุดสืบสวนนำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 548/2567 เข้าตรวจค้นโรงงานลักลอบผลิตยาแก้แพ้ปลอมของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ภายในสวนผลไม้เนื้อที่ 9 ไร่ ในพื้นที่ ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทรน้อย พบขวดยาแก้แพ้ปลอมขนาด 60 มิลลิลิตรบรรจุเสร็จติดฉลากยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) 60 ลัง รวม 12,000 ขวด พร้อมเครื่องจักรบรรจุยาแก้แพ้ชนิดน้ำ 2 เครื่อง เครื่องจักรปิดฝา 1 เครื่อง เครื่องจักรติดฉลาก 1 เครื่อง ฉลากยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) เครื่องรัดกล่องกระดาษ 1 เครื่อง และเชือกรัดกล่อง 35 ม้วนสำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากบริษัทที่ผลิตและจัดจำหน่ายยาแก้แพ้ยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พบว่ามีการลักลอบผลิตยาแก้แพ้ เลียนแบบ ใช้ฉลากและบรรจุภัณฑ์ที่เหมือนกับของแท้มาผลิตและจัดจำหน่ายเอง ต่อมาบริษัทผู้เสียหายเข้าเเจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ธรรมศาลา กทม. จนกระทั่งมีการล่อซื้อและจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน ก่อนขยายผลไปถึงต้นตอแหล่งผลิตภายในโรงงานแห่งนี้จนนำไปสู่การตรวจค้นและยึดของกลางทั้งหมด ระหว่างจับกุมมีนายฐนกฤต หรือมี่ อภิมหาเจริญไพศาล อายุ 37 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ และนายทวีศักดิ์ หรือเอส คำภูผา อายุ 25 ปี เป็นผู้ดูแลสอบสวนนายฐนกฤต ให้การรับสารภาพว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของตนเอง มีนายทวีศักดิ์เป็นผู้จัดการและร่วมกันผลิตยาแก้แพ้ยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบจริง เมื่อผลิตเสร็จ หุ้นส่วนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามที่สั่งไว้ และจำหน่ายให้บุคคลทั่วไป ใช้ ช่องทางโซเชียลมีเดียทำการตลาดลักลอบผลิตยาปลอมได้ 4-5 เดือนแล้ว ส่วนสูตรผลิตยาตัวนี้ หุ้นส่วนเป็น คนได้มา ตนเป็นเพียงพ่อค้าคนกลางหาเครื่องจักรและลงทุนทั้งหมด แต่ละเดือนมีออเดอร์จากลูกค้าประมาณ 50 ลัง บรรจุลังละ 200 ขวด ขายราคาลังละ 9,000 บาทเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหารวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิ์ประกอบการวิชาชีพโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต 2.ร่วมกันขายยาปลอมโดยผิดกฎหมาย 3.นำชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใดๆในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า หีบห่อวัตถุที่ใช้หุ้มห่อเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของผู้อื่นด้านนายณัฐวุฒิ สิมานุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สืบทราบว่ามีการปลอมแปลงยาของบริษัทจึงเข้าแจ้งความหาแหล่งผลิต ที่ผ่านมาบริษัทประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลตำรวจ เพื่อสืบหาผู้ก่อเหตุมาตลอด กระทั่งนำไปสู่การจับกุมตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาปลอมในครั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท เชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี นำสินค้าปลอมไปวางขายร้านขายยาทั่วไปและขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น บริษัทจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่