บึมสนั่นบั้งไฟแสนระเบิดในงานประเพณีประจำปี ชาวบ้านหนีตายกันอย่างอลหม่านมีผู้บาดเจ็บรวม 38 คน คณะกรรมการจัดงานออกมารับผิดชอบ มีเงินประกันภัยรวม 1 ล้านบาท เร่งสำรวจผู้บาดเจ็บเพื่อเยียวยาทุกราย ขณะที่ตำรวจเรียกเจ้าของค่ายบั้งไฟมาสอบสวน ตรวจใบอนุญาตผลิตถูกต้อง และสอบพยานเพื่อแจ้งดำเนินคดีจากเหตุบั้งไฟแสนระเบิดภายในงานประเพณีบุญบั้งไฟเป็นงานประจำปี 2567 จัดขึ้นภายในวัดพระธาตุอุปมุง บ้านสร้างบุ ต.โพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ทำให้ชาวบ้านมาร่วมงานได้รับบาดเจ็บ 38 คน แยกเป็นชาย 34 คน หญิง 4 คน ส่วนใหญ่มีแผลและรอยไหม้ตามลำตัว มีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 4 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และโรงพยาบาลโพนทอง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มิ.ย.ความคืบหน้าช่วงสายวันที่ 17 มิ.ย. พ.ต.ท.อดิศร อินธิจักร สว. (สอบสวน) สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเรียกเจ้าของค่ายผู้ผลิตบั้งไฟมาสอบสวน ตรวจสอบมีบัตรอนุญาตผลิตบั้งไฟถูกต้อง อยู่ระหว่างประสานกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ยังไม่แจ้งดำเนินคดีกับใครอยู่ระหว่างสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 38 คน บางส่วนกลับบ้านไปแล้ว ยังคงเหลือผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ รพ.ร้อยเอ็ด 5 ราย ประกอบด้วยนายพิเชษฐ์ สุระขัน อายุ 44 ปี นายทองม้วน ภักดีศรี อายุ 66 ปี นายนิพล ประหา อายุ 74 ปี นายนิรันดร์ ทนุการ อายุ 48 ปี และนายสมพงษ์ พลเยี่ยม อายุ 64 ปี ส่วนที่ รพ.โพนทอง มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วยนายธัญญณัฐ สูตรขวัญ อายุ 41 ปี นายบุญโสม จันทร์งาม อายุ 70 ปี นายเกียรติพงษ์ ศุภษร อายุ 35 ปี และนายสุรศักดิ์ โวหารลึก อายุ 50 ปีขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังฐานจุดบั้งไฟ ภายในวัดพระธาตุอุปมุง ที่เกิดเหตุยังพบเศษของบั้งไฟแสนแตกกระจัดกระจาย และพบคราบสะเก็ดของบั้งไฟตกใกล้กับฐานบั้งไฟ ตรวจสอบฐานบั้งไฟมีความมั่นคงแข็งแรงค้ำยันด้วยเสาปูนคอนกรีตฐานเฉียง 90 องศาตามมาตรฐาน พบหางบั้งไฟแสนที่ระเบิดติดอยู่บนฐานบั้งไฟด้านนายบุญวาด ยอดภักดี อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านสร้างบุ หมู่ 3 เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุจุดบั้งไฟแสนของกลุ่มคนเหนือดวง เป็นบั้งไฟแสนท่อพีวีซีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 120 กก. ตนประกาศให้ชาวบ้านและเซียนบั้งไฟที่มาชมถอยออกในระยะปลอดภัยมีเส้นกั้นไว้ประมาณ 100 เมตร แต่ชาวบ้านบางส่วนที่ฝ่าเส้นกั้นเข้าไปโดยไม่ฟังคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ ในระหว่างที่จุดบั้งไฟเผาไหม้ไปบางส่วนแล้วเกิดการระเบิด ทำให้ส่วนหัวของบั้งไฟหลุดออกจากหางที่ติดอยู่กับฐานบั้งไฟ แล้วพุ่งไปแบบไม่มีทิศทางชนชาวบ้านที่มาร่วมงานได้รับบาดเจ็บหลายคน คณะกรรมการจัดงานทำประกันภัยไว้กับบริษัทวิริยะประกันภัยในวงเงิน 1 ล้านบาท เร่งประสานพนักงานของบริษัทประกันภัยเข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเยียวยาตามข้อตกลงของการเอาประกันภัย หากยังไม่เพียงพอตนจะประชุมกับชาวบ้านเพื่อหาแนวทางเยียวยาเพิ่มเติมนายสำเริง อนันต์พักตร์ กำนันตำบลโพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด 1 ในคณะกรรมการจัดงานเปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บั้งไฟแสนที่ระเบิดนั้นเป็นบั้งไฟที่นำมาจุดถวายพระธาตุอุปมุง คณะกรรมการขอโทษผู้บาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบมาแจ้งที่เทศบาลตำบลโพธิ์ศรีสว่างเพื่อจะได้รับการเยียวยาต่อไปต่อมานายสฤษดิ์ วงษ์กาฬสินธุ์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3 และนายอุทัย โยชน์เมืองไพร ผอ.ร.ร.บ้านหนองโกโพธิ์เงินคำผักกูด อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของผู้บาดเจ็บ 2 ราย เป็นนักเรียนอายุ 12 ปี และพ่อเด็กเป็นชาวบ้านใน ต.โพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด พบเป็นเยาวชนชายอายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลผุพองที่เท้าขวาจากสะเก็ดบั้งไฟ ส่วนพ่อเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสรักษาตัวที่ รพ.ร้อยเอ็ด นายสฤษดิ์เปิดเผยว่า รับรายงานเหตุการณ์บั้งไฟระเบิดทราบว่ามีนักเรียนในสังกัดได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนพ่อเด็กอาการสาหัส ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจ หลังจากนี้จะขอเอกสารใบรับรองจากแพทย์เพื่อเสนอขอเงินเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทประกันภัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่