“การมาฟ้องในวันนี้ถือเป็นการปกป้องชื่อเสียงของผม ทุกวันนี้ผมทำงานมีหน้าที่ ผมต้องปกป้องประชาชน ถ้าวันนี้ผมปกป้องตัวเอง ไม่ได้ ผมจะไปปกป้องคนอื่นได้ยังไง”“กล่าวหาว่าผมพาผู้ต้องหาไปอยู่เซฟเฮาส์ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทำไมทนายไม่แนะนำให้ลูกความดำเนินคดีกับผมฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวไปเลย ทนายต้องรู้กฎหมาย เป็นการจับกุมตามหมายจับของศาล กระบวนการต่อไปมีพนักงานสอบสวน อัยการ และศาล ไม่เคยรู้จัก ไม่มีเหตุกลั่นแกล้งกัน”โพสต์ข้อความใส่ร้ายตอนนี้ต้องการอะไรเสียงเรียกร้อง “สารวัตรแจ๊ะ” พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. หลังเป็นข่าวพา นางสาวอาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ยื่นฟ้องทนายข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ต่อศาลอาญาที่มีโพสต์ข้อความเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ว่า “จับแพะ ติดคุกฟรีปีกว่า”พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ บอกว่า การจับกุมจำเลยทำไปตามหลักการสืบสวน ไม่ได้ใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งจับกุม มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลพิจารณา แม้คดีศาลชั้นต้นจะยกฟ้อง ยกฟ้องด้วยเหตุสงสัย ต่อมาศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างหลักฐานของโจทก์ได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279 วรรคสอง จำคุก 2 ปีต่อมาศาลฎีกาพิพากษา ยกฟ้องด้วยเหตุสงสัย ไม่ได้ยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิด โดยศาลวินิจฉัยพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยทนายอาชิรญาณ์ อธิบายว่าตามหลักกฎหมายการพิสูจน์คดีอาญา ถ้าพยานหลักฐานที่ปรากฏต่อศาลยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าจำเลยกระทำความผิดจริงหรือไม่ ศาลจะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย หลักนี้มีในกฎหมายไทยและเป็นหลักสากลอยู่แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย หมายความว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นยืนยันได้ว่าจำเลยกระทำผิด เพียงแต่ศาลฎีกายกฟ้องเพราะเหตุแห่งความสงสัยบางประการ ไม่ได้หมายความว่าจำเลยจะไม่ได้กระทำความผิดศาลไม่ได้ชี้ชัดจำเลยไม่ได้ทำผิดทนายชี้ว่า การพูดกล่าวหาแบบนี้เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ถ้ามีประชาชนหรือผู้ติดตามเพจสื่อหลงผิดเชื่อหรือไม่เข้าใจข้อกฎหมาย ถือว่าเป็นการทำลายหลักกฎหมาย ทำลายตำรวจที่ทำงานเพื่อประชาชนอยู่เป็นเรื่องราวน่าอึดอัดของการทำงานสืบสวนตั้งใจทำงานหาหลักฐานจับกุมผู้ต้องหา ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เป้าหมายสำคัญจับกุมตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้มีการพิจารณาลงโทษอาจเป็นเหยื่อโลกโซเชียล.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม