โจรกรุงเหิม ควงปืนบุกจี้ชิงทรัพย์เซียนพระถึงบ้านกลางวัน แสกๆ บังคับโอนเงิน 1.8 แสนบาท แถมหอบโทรศัพท์มือถือไปอีก 5 เครื่อง หลบหนีลอยนวลโดยไม่ได้อำพรางตัว เพราะรถ จยย.พาหนะก่อเหตุยังติดทะเบียนหรา ชุดสืบสวนสงสัยเคยซื้อขายพระจนมีปัญหากันมาก่อน เร่งตรวจสอบทะเบียนรถ จยย.ล่าตัว 2 โจรมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้วโจรกรุงบุกชิงทรัพย์เซียนพระรายนี้ เปิดเผยจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 มี.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เผยกรณี 2 คนร้ายใช้ปืนบุกชิงทรัพย์เซียนพระภายในบ้าน ย่านหนองจอกว่า สั่งการให้ พล.ต.ต.เกียรติคุณ สนธิเณร ผบก.น.3 ตรวจสอบเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย ขณะนี้ฝ่ายสืบสวน สน.หนองจอก เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 และชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหา ไล่กล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี และให้พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก เร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.27 น. วันที่9 มี.ค. พ.ต.ท.ชาตรี หางนาค สว. (สอบสวน) สน.หนองจอก รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 279/59 หมู่บ้านนนทวีวิลล์ 7 แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กทม. รายงานผู้บังคับบัญชาร่วมเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จตุภูมิ มุดซาเคน ผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สน.หนองจอก ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม และชุดสืบสวน สน.หนองจอก เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รั้วรอบขอบชิด พบนายณัฐดนัย ชัยนันตา อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย อยู่ในอาการตื่นตระหนก เบื้องต้นให้การว่าประกอบอาชีพซื้อขายเช่าพระเครื่องสอบสวนนายณัฐดนัย ชัยนันตา เจ้าของบ้านทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีชายฉกรรจ์ไม่ทราบชื่อนามสกุล 2 คน ขี่รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน 4ขฐ2653 กรุงเทพมหานคร เข้ามาหาที่บ้าน ผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สวมแจ็กเกตสีดำขาว ส่วนคนซ้อนท้ายไม่สวมหมวก อ้างว่าเอาพระมาขายคืน พอให้เข้ามาในบ้านคนร้ายเผยธาตุแท้ ชักปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติไม่ทราบขนาด จี้บังคับให้โอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ 180,000 บาทไปที่บัญชีที่กำหนด ด้วยความตกใจกลัวยอมทำตามแต่โดยดี หลังโอนเงินไปแล้วคนร้ายยังเอาโทรศัพท์มือถือของตนไปอีก 5 เครื่อง รวมราคา 87,000 บาท หลังจากนั้นวิ่งไปขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนีออกจากหมู่บ้านแล้วเลี้ยวขวา หลังจากนั้นไม่ทราบเส้นทางแน่ชัดเบื้องต้นชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคาดว่า ผู้ต้องหาอาจเคยติดต่อซื้อขายพระกับผู้เสียหายมาก่อนจนเกิดปัญหากันขึ้น หลังจากนี้พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) มาเก็บหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุทั้งลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ เพื่อเป็นหลักฐานทางคดีขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับมาดำเนินคดีต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่