ไฟไหม้บ้านร้างเก่าในซอยพหลโยธิน 2/1 ลามวอดบ้านไม้เก่าโบราณใกล้เคียงไปรวม 5 หลัง 1 ในนั้นมีบ้าน พล.ร.ต. วัย 91 ปี ที่ปรึกษาราชสกุล “อาภากร” ผู้รวบรวมและเรียบเรียงหนังสือ “หมอพรเทวดา” อัตชีวประวัติกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ไหม้เสียหายไปด้วย โชคดีไร้เจ็บตายเพราะลูกชายและภรรยาช่วยหนีออกมาทัน ด้านลูกชายนายพลเรือแฉ เคยประสานเจ้าของบ้านร้างต้นเพลิงให้มารื้อถอน เพราะปล่อยรกร้างจนหลังคาถล่มใส่บ้านเสียหายมาแล้ว ก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้จนบ้านเรือนผู้อื่นเสียหายไปด้วยไฟไหม้บ้านร้างเก่าแก่พหลโยธินซอย 2/1ลามบ้านไม้ที่ปรึกษาราชสกุลอาภากร ทำข้อมูล “เสด็จเตี่ย” วอดไปด้วย โดยเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.ท.พรชัย โรจน์วิภาต สว. (สอบสวน) สน.ดินแดง รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนในซอยพหลโยธิน 2/1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ไปตรวจสอบพร้อมรถน้ำ 5 คัน จากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพหลโยธินสถานีฯลาดยาว และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพบไฟกำลังลุกไหม้บ้านไม้ 2 ชั้น เก่าแก่ปลูกติดกันหลายหลังอายุเกือบร้อยปี บ้านต้นเพลิงอยู่บ้านเลขที่ 152/3 มีแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากโหมไหม้รุนแรงก่อนลุกลามบ้านไม้ 2 ชั้น ที่อยู่ด้านหลัง เลขที่ 152 เป็นบ้านของ พล.ร.ต.กรีฑา พรรธนะแพทย์ อายุ 91 ปี ที่ปรึกษาราชกุลอาภากร ผู้รวบรวมและเรียบเรียงหนังสือ “หมอพรเทวดา” อัตชีวประวัติของพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ หรือกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ไหม้เสียหายทั้งหลัง และยังลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียง ที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบรถน้ำเข้าไม่ถึงเจ้าหน้าที่พยายามลากสายยางระยะเกือบร้อยเมตรระดมฉีดน้ำนาน 40 นาที เพลิงสงบ ไฟไหม้บ้านวอดไป 5 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนายชลธิศ พรรธนะแพทย์ อายุ 58 ปี ลูกชายของ พล.ร.ต.กรีฑา กล่าวว่า ขณะที่กำลังนอนหลับ จู่ๆได้ยินเสียงเพื่อนบ้านร้องตะโกนว่าไฟไหม้ ชะโงกหน้าออกมาดูเห็นแสงเพลิงสีแดงมาจากชั้น 2 ของบ้านร้างเก่าแก่อายุ 100 ปี ที่ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ตนและภรรยารีบพาพ่อที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และคนในบ้านรวม 4 คน และรถอีก 2 คันออกมา ส่วนทรัพย์สินที่เหลือเอาออกมาไม่ทัน เพราะไฟลามมาอย่างรวดเร็วลุกไหม้บ้านตนที่เป็นไม้เสียหายเกือบทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลต่างๆที่เป็นอัตชีวประวัติของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ยด้วยนายชลธิศเผยอีกว่า ที่ผ่านมาพยายามแจ้งเจ้าของที่ดังกล่าวให้รื้อบ้านออก เพราะเมื่อไม่มีคนดูแลสภาพบ้านก็ทรุดโทรมเป็นอย่างมาก หลังคาถล่มลงมาสร้างความเสียหายให้กับบ้านตนที่อยู่ติดกัน มีแมวจรจัดและสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษต่างๆเข้ามาอาศัย ยิ่งหน้าฝนทำให้ฝนชะล้างสิ่งสกปรกไหลมาที่บ้านของตนส่งกลิ่นเหม็นจนได้รับความเดือดร้อน รวมถึงสายไฟที่ชำรุดเกรงจะเกิดไฟไหม้ ล่าสุดที่แจ้งเจ้าของให้มารื้อถอนบ้านเป็นช่วงก่อนปีใหม่ไม่นาน แต่เจ้าของแค่มารื้อถอนหลังคาที่ถล่มใส่บ้านตนออกเท่านั้น และไม่ได้ทำอะไรต่อกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ อยากเรียกร้องให้เจ้าของที่ออกมารับผิดชอบบ้านทุกหลังที่ได้รับความเสียหายด้วยเบื้องต้นสาเหตุของเพลิงไหม้ยังต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากต้นเพลิงเกิดในบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย รวมทั้งจะต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำต่อไปต่อมาเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.พรชัย โรจน์วิภาต สว. (สอบสวน) สน.ดินแดง กล่าวว่า บ้านต้นเพลิง เลขที่ 152/3 ตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวปล่อยทิ้งร้างไม่มีคนอยู่อาศัย โดยเจ้าของอาศัยอยู่ต่างจังหวัด ได้ประสานเข้ามาให้การแล้วแต่ยังติดธุระจะเข้ามาในภายหลัง ส่วนการดำเนินการค่าเสียหายต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่มาประกอบสำนวนด้วยจึงจะดำเนินขั้นตอนต่อไปได้ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าของบ้านต้นเพลิงดังกล่าวคือนายเนติ ตันติมนตรี มีธุรกิจหลายประเภท อาทิ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ให้เช่าโกดังสินค้า ให้เช่าโรงถ่ายสตูดิโอ ภาพยนตร์และ โฆษณาอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่