หัวหน้า รปภ.ปืนโหด ชัก 9 มม. ไล่ยิงผู้จัดการ บริษัท รปภ.ฝ่ายตรงข้าม ตายสยองพร้อมลูกน้องรวม 3 ศพ บาดเจ็บอีก 2 ราย ลงมืออำมหิตหน้าป้อมยามรักษาการโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หนีไม่รอด ถูกตำรวจตามล็อกตัวทันควัน อ้างบันดาลโทสะเพราะมีปัญหาขัดแย้ง เรื่องแบ่งพื้นที่ดูแลโรงไฟฟ้า มือยิงเป็นเจ้าถิ่นทำมานาน ถึง 16 ปี แต่กลับโดนลดบทบาท หลังโรงไฟฟ้าจ้าง บริษัทผู้ตายเข้ามาร่วมดูแลพื้นที่สะเทือนขวัญ หัวหน้า รปภ.โรงไฟฟ้าเคลียร์ปัญหาดูแลพื้นที่กับ รปภ.อีกบริษัทไม่ลงตัว ชักปืน 9 มม.ไล่ยิงดับ 3 ศพ เจ็บ 2 ราย เปิดเผยเมื่อเช้าวันที่ 13 ม.ค. บริเวณป้อมยามรักษาความปลอดภัย ประตูทางเข้า B หน้าโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์(RPC) หมู่ 6 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี นำกำลังลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน ทั้งพยานวัตถุ และพยานนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่เกิดเหตุห้ามบุคคลภายนอกเข้าเด็ดขาด ขณะที่การชันสูตรศพเหยื่อกระสุนทั้ง 3 ศพ เจ้าหน้าที่ รพ.ดำเนินสะดวก จะส่งไปผ่าพิสูจน์วิถีกระสุนที่ รพ. ศูนย์ราชบุรี ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ รพ.ดําเนินสะดวกทั้ง 2 ราย เบื้องต้นอาการดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 12 ม.ค. ร.ต.อ.ไพรวัลย์ ปี่แก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.ดำเนินสะดวก รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ภายในป้อมยามรักษาความปลอดภัย หน้าโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ (RPC) หมู่ 6 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุรายงานให้ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จ.ราชบุรี และผู้บังคับบัญชาทราบ นำกำลังชุดสืบสวน-สอบสวน สภ.ดำเนินสะดวก เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี แพทย์เวร รพ.ดำเนินสะดวก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรีไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 3 ศพ ทราบชื่อนายพิเชษฐ์ เหลืองละมัย อายุ 51 ปี ครูฝึกรปภ.บริษัท เฮสอาร์โปร จำกัด กระสุนเข้าลำตัวหลายนัด นายชนรพ ผาดี อายุ 50 ปี ผจก.ฝ่าย รปภ.บริษัทเดียวกัน กระสุนเข้าศีรษะ ทั้งสองเสียชีวิตในป้อมยามรักษาการณ์ อีกศพคือ นายชาคริต นาคประดิษฐ์ อายุ 52 ปี รปภ.บริษัทเดียวกันถูกยิงศีรษะนอนตายหน้าประตูทางเข้าโรงไฟฟ้า มีผู้บาดเจ็บ 2 รายคือนายสาธิต มีวงศ์ อายุ 50 ปี รปภ.บริษัท เฮสอาร์โปร ถูกยิงท้องอาการสาหัส กู้ภัยสว่างราชบุรี นำส่งรักษา รพ.ดำเนินสะดวก และมี รปภ.อีก 1 คน ถูกลูกหลงบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนมือปืนผู้ก่อเหตุคือ นายบุญเลิศ สายสิทธิ์ อายุ 49 ปี หัวหน้า รปภ.บริษัทบิลเลี่ยนการ์ด ดูแล โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ หลังก่อเหตุขับรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน บว 8688 ราชบุรี หลบหนี ชุดสืบสวน ภ.จ.ราชบุรี และชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก ติดตามไปจับกุมได้ คุมตัวมาชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายบุญเลิศอ้างว่าเรียกผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็น รปภ.ที่สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ส่งตัวมาปฏิบัติงานที่โรงไฟฟ้าราชบุรี เพื่อประชุมชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือน แต่พูดคุยตกลงกันไม่ลงตัว มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง บันดาลโทสะใช้ปืนพก 9 มม. ไล่ยิงผู้ตายและผู้บาดเจ็บไปหลายนัด มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนขับรถยนต์หลบหนีตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด ได้เปิดกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุดู ทราบว่ายังมีนายมนต์ชัย หรือดำ อยู่พิพัฒน์ อายุ 50 ปี ลูกน้องของนายบุญเลิศ ถือปืนลูกซองยาวยืนคุมเชิงให้นายบุญเลิศก่อเหตุ ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกกันขับรถหลบหนี นายดำขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน ผก 9380 ราชบุรี หนีไป ตำรวจสืบทราบว่าน่าจะหลบไปที่บ้านภรรยา อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้า 3 กม. นำกำลังชุดปฏิบัตการพิเศษ ภ.จ.ราชบุรี ตามไปควบคุมตัว เมื่อไปถึงบ้านภรรยานายดำในพื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พบเพียงรถกระบะที่นายดำขับหลบหนีมา ภรรยานายดำให้ข้อมูลว่าสามีขับรถมาจอดอย่างเร่งรีบ และออกจากบ้านไปทันที ไม่ได้พูดจากอะไรกันชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก เค้นสอบปากคำนายบุญเลิศอย่างละเอียด เจ้าตัวยอมพูดถึงปมก่อเหตุว่า ตนเป็นหัวหน้า รปภ.บริษัทบิลเลี่ยนการ์ด ทำงานที่โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์มา 16 ปี ภายหลังโรงไฟฟ้าว่าจ้างบริษัท เฮสอาร์โปร จำกัด ให้มาร่วมดูแลพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าด้วย วันเกิดเหตุ รปภ.ทั้ง 2 บริษัทมาพูดคุยเคลียร์กันว่าใครจะดูแลรับผิดชอบพื้นที่จุดใดบ้าง ปรากฏว่าบริษัทที่นายบุญเลิศ เป็นหัวหน้า รปภ. ถูกลดพื้นที่รับผิดชอบลง ทำให้นายบุญเลิศไม่พอใจ บันดาลโทสะใช้ปืนพก 9 มม.ยิงใส่ รปภ.บริษัทฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีก 2 คน เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีนายบุญเลิศในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน” ส่วนนายมนต์ชัยอยู่ระหว่างติดตามจับกุมเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ที่วัดท่าเรือ ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ญาติรับศพนายพิเชษฐ์ เหลืองละมัย อายุ 51 ปี ครูฝึก รปภ. 1 ใน 3 ผู้เสียชีวิตออกจาก รพ.ศูนย์ราชบุรีขึ้นรถตู้มาตั้งบำเพ็ญกุศล บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติและครอบครัว กำหนดสวดอภิธรรมศพ 3 คืน และมีพิธีฌาปนกิจศพวันที่ 15 ม.ค. เวลา 14.00 น.น.ส.วันดี เหลืองละมัย อายุ 33 ปี น้องสาวผู้ตาย เล่าว่า เพิ่งทราบเรื่องการตายของพี่ชายเมื่อเช้าเวลา 07.00 น. มีเพื่อนผู้ตายเดินทางมาบอกที่บ้านว่าพี่ชายถูกยิงเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ ตอนแรกยังไม่มีใครรู้สาเหตุว่าพี่ชายถูกยิงเพราะอะไร เพิ่งทราบตอนที่ไปรับศพ คนอยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า พี่ชายกำลังประชุมงานกันอยู่จู่ๆหัวหน้าชุด รปภ.คนที่ก่อเหตุไม่พอใจในข้อตกลง หลังประชุมเสร็จได้มายืนดักรอหน้าห้องประชุมเพื่อไม่ให้ออก และชักปืนที่พกมายิงผู้จัดการก่อน แล้วยิงพี่ชาย ก่อนถูกยิงพี่ชายยังเข้าไปแย่งปืนจนถูกยิงใส่ 1 นัด พี่ชายวิ่งหนีแต่ถูกตามยิงซ้ำจนเสียชีวิตน.ส.วันดีกล่าวต่อว่า ในส่วนของความขัดแย้งระหว่างผู้ก่อเหตุกับพี่ชาย ตนไม่รู้ว่าเคยมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า เพราะเรื่องเกี่ยวกับงานของพี่ชาย ไม่เคยรู้เรื่องไม่เคยถาม ส่วนการเยียวยาตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนติดต่อเข้ามา อีกทั้งตอนนี้ครอบครัวกำลังยุ่งกับการจัดงานศพด้วย อยากฝากไปถึงผู้ก่อเหตุ ว่าจิตใจทำด้วยอะไร โหดร้ายเกินไปหรือเปล่า ยิงนัดเดียวก็ได้ถ้าไม่พอใจกัน แต่ทำไมต้องยิงซ้ำจนตาย อยากให้ตำรวจดำเนินคดีด้วยข้อหาหนัก และอยากให้ศาลตัดสินประหารชีวิตตายตกตามกันไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่