สืบนครบาลขยายผลคดีสะเทือนขวัญ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์และ นายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 ช่างกลอุเทนถวาย เสียชีวิตหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ใช้ “มาตรการเด็ดขาด” ทำแบบ “ขุดรากถอนโคน” เนื่องมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคน และมีการวางแผนต่อต้านการสืบสวนของตำรวจ คนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมแบบมือปืน หากปล่อยไว้ไม่เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ จะมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเพิ่มอีกมอบ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.สส. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้ามาคุมการสืบสวนคดีให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งรัดสืบสวนสั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเชิงปราบปรามบุกทลายองค์กรนี้ ไม่จับเฉพาะผู้ก่อเหตุยิงและผู้ขับขี่ สอดคล้องกับนโยบายของ ผบ.ตร. มองกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นองค์กรอาชญากรรมการสืบสวนเทคนิคการสืบสวนใช้เทคโนโลยีและหลักนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิดพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โครงการ “กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ” สมัย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ริเริ่มไว้ให้นักสืบ ประสานงานสำนักงานพิสูจน์หลักฐานนำดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุมาใช้ในการสืบสวนอย่างละเอียดนำรูปแบบยุทธวิธี บช.ปส.ของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน ตำนานมือปราบยาเสพติด ปฏิบัติการทลายทั้งเครือข่ายดีและรูปแบบองค์กรยาเสพติด ต้องบุกในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญค้นถึงรังหรือเซฟเฮาส์ได้ผลสูงสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ใช้เวลา 1 สัปดาห์ร่วมกับ พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. สืบจากกล้องวงจรปิด 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล พบรถ จยย.คันก่อเหตุ คนร้ายลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน คนร้ายลักแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย. 2 แห่ง พื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น ใช้ตบตาชุดสืบสวน มีการทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น เปลี่ยนสีรถ จยย.คันก่อเหตุจากสีแดงเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน การเปลี่ยนเครื่องแต่งกายคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือก่อเหตุพล.ต.ต.ธีรเดช จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี เอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อเหตุคล้ายคลึงกัน เชื่อมโยงข้อมูลสืบสวนคดี นายพฤฒิพล ราชญาณ ผู้ขับขี่รถ จยย.ให้คนร้ายกราดยิงใส่นักศึกษาช่างกลอุเทนถวายที่หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 14 ม.ค. นายพฤฒิพลเป็นผู้ช่วยวางแผนและช่วยเหลือคนยิง น.ส.ศิรดาหรือครูเจี๊ยบ และนายธนสรณ์ หน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงิน นำมาขยายผลพบข้อมูล คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยนและจุดที่ลงมือ พบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มคู่อริมีผู้ร่วมขบวนการ สืบทราบแหล่งเซฟเฮาส์ 4 แห่ง วงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม และกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ลับจำนวนมากที่ร่วมก่อเหตุพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 นำกำลังสืบนครบาล สืบ บก.น.5 สน.ทุ่งมหาเมฆ และสืบบก.น.6 “เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิง” จับกุมครั้งที่ 1 จำนวน 9 คน นายพฤฒิพล ราชญาณ หรือเอย อายุ 22 ปี นายวรงชัย กัณฑ์ศรี อายุ 20 ปี นายวุฒิพงษ์ ผลคำ อายุ 25 ปี นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์ อายุ 24 ปี นายสหัสวรรษ ภักดีนอก อายุ 23 ปี นายจิรายุส สุวรรณศุภ อายุ 23 ปี นายธนากร พันทองคำ อายุ 22 ปี นายอภิเดช นาคประกอบ อายุ 21 ปี นายธนภัทร เกตุชาติ อายุ 23 ปี ชุดสืบสวนทอดเวลาห่าง 3 สัปดาห์ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุชะล่าใจ “เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิง 2 #มันต้องจบที่รุ่นเรา” จับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม 13 ราย นายชนัญชิต แสงจันทร์หรือแป๊ปซี่อายุ 21 ปี ที่ไปเยี่ยมเพื่อนที่ถูกจับชุดแรกและกล่าวหาว่าตำรวจ “จับแพะ” นายจิรเมธ นามณรงค์ อายุ 20 ปี นายกันตพงศ์ พรมพิทักษ์ อายุ 28 ปี นายขจรศักดิ์ แต้มชัยภูมิ อายุ 25 ปี นายกรกฎ ตื้อแอ้ อายุ 20 ปี นายสุขสันต์ กองแก้ว อายุ 22 ปี นายชุมนุมโชค เอี่ยมปาน อายุ 21 ปี นายนครินทร์ นาคิน อายุ 29 ปี น.ส.อัญญารัตน์ ทองสุข อายุ 24 ปี นายธนโชติ บุญสงเคราะห์ อายุ 22 ปี นายนพวุฒิ เรืองศรี อายุ 25 ปี นายณัฎฐกิตต์ คำเก่า อายุ 33 ปี และนายอัฐวุธ สินอยู่ อายุ 25 ปีชุดสืบสวนนครบาลไล่ล่าจับกุมนายอนาวินหรืออั้ม แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือยิง และนายกฤตหรือซิว ล้ำเลิศ หนีกบดาน จ.เชียงใหม่ รวมจับกุม 24 ราย เหลือนายอับดุลเลาะ ดือราแม ผู้ขับขี่ จยย.พามือปืนยิง และนายรัชวุฒิ แก้วสว่าง หลบหนี เป็นการสืบสวนขยายผลเครือข่ายต่อเนื่องชุดสืบสวนนครบาลตามคำสั่ง ผบ.ตร.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ร่วมสอบปากคำนายอนาวิน ทำให้มือปืนรับสารภาพว่าเป็นคนยิงจริง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวว่า “การจับกุมเป็นการทำงานแบบมืออาชีพ ไม่ได้กระจายข่าวบ่อยๆ เพราะต้องการจับคนร้ายเป็นกลุ่ม ทำงานกับอีกหลายหน่วยทลายเครือข่ายนี้และบอกด้วยว่านี่คือแผนประทุษกรรมคนร้ายไม่ใช่แค่จับมือยิงแล้วจบแต่ศึกษาแผนประทุษกรรมคนร้ายสาวไปรุ่นพี่หัวหน้าเครือข่าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการขัดแย้งระหว่างสถาบันที่มีการปลูกฝังแบบโลกเสมือนจริง ทำให้รู้สึกถึงความเคียดแค้น และไม่ใช่แค่ 2 สถาบันนี้ แต่อยากให้กลับไปดูคดีเก่าๆของสถาบันอื่นด้วย”“จะทำลาย “รังปลวก” ทั้งเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมอาชีวศึกษาต้องมาเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรอาชีวะ ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและออกตรวจสถานที่สำคัญเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน เป็นมาตรการการป้องกันในการเกิดเหตุ”พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ข้อมูลสืบสวนสอบสวนของตำรวจกล่าวได้เลยว่ามีการพัฒนาจนเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไปแล้ว มันไม่ใช่แค่ขี่รถมาก่อเหตุ มันมีการวางแผนกันเป็น 10 คน “ยิ่งกว่าในภาพยนตร์” มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เห็นจะเลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความก็จะตามพรรคพวกมานั่งแห่ฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก มันไม่ใช่เรื่องที่เราในสังคมจะมองข้ามกันได้แล้ว เพราะมันลุกลามบานปลายมาจนมีผู้บริสุทธิ์ต้องมาเผชิญชะตากรรมเลวร้ายจากกลุ่มบุคคลนี้”ระบบการสืบสวนทำคดีชุดสืบสวนนครบาลใช้เทคนิคสืบสวน เทคโนโลยีทันสมัยและหลักนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเป็นทีม รวบรวมพยานหลักฐานขยายผลจับกุมทั้งเครือข่ายผู้ร่วมก่อเหตุและสนับสนุนเป้าหมายยุติต้นเหตุขัดแย้งระหว่างสถาบัน.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม