ผู้การเมืองกรุงเก่าเรียกชุดสืบสวนประชุมคลี่คลายคดียิงผู้ช่วยนักข่าว BC News ดับ ภายหลังรวบ “จิ๊บ ไผ่เขียว” เจ้าของร้านหมูกระทะที่ อ.อุทัย เกี่ยวโยงส่งปืนให้ลูกน้องลั่นไกสังหารแล้วหลบหนี ตำรวจเร่งตามล่าตัวอีก 1 คน คาดปมเหตุบาดหมางจอดรถขวางและแค้นส่วนตัว ขณะที่เมียผู้ช่วยนักข่าวนิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เผยแต่งงานกันได้ไม่นาน เพิ่งคุยกับสามีไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายจากเหตุนายสิงหวัฒน์ ดารา อายุ 49 ปี พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งและเป็นผู้ช่วยผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ถูกยิงเสียชีวิตในรถเก๋งฮอนด้า บรีโอ สีขาว ทะเบียน กน 2986 พระนครศรีอยุธยา ติดสติกเกอร์ข่าว BC News ทุกทิศทั่วไทย บริเวณริมถนนทางหลวงชนบท หมายเลข อย.2045 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมนายนพพล ประสงค์ศิล อายุ 36ปี หรือ “จิ๊บ ไผ่เขียว” น้องชาย “โจ๊ก ไผ่เขียว” ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ และนักปล้นยาเสพติดที่เคยก่อเหตุยิงรถคู่อริและถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมเมื่อปี 53 มาสอบสวนเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายนพพลยังให้การปฏิเสธความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมตำรวจเร่งคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย พร้อมด้วยชุดสืบสวนใช้เวลาประชุม 2 ชม.พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตำรวจนำหลักฐานขอศาลออกหมายจับในคดีดังกล่าว 2 คนชื่อนายนพพล ประสงค์ศิล อายุ 36 ปี หรือ“จิ๊บ ไผ่เขียว” และนายนิกร หรือกร แป้นนาค อายุ 46 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตำรวจจับกุมนายนพพลได้แล้ว ส่วนนายนิกรยังหลบหนี จากหลักฐานตำรวจชุดสืบสวนได้ภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและกล้องวงจรปิดภายในรถของผู้เสียชีวิตจับภาพพบว่า ช่วงเกิดเหตุนายนพพลและนายนิกรขี่รถ จยย.มากันคนละคันวิ่งตามหลังรถเก๋ง นายนพพลส่งปืน .38 ให้กับนายนิกร จากนั้นนายนิกรขี่รถ จยย.เร่งเครื่องแซงขึ้นหน้ายิง 4 นัดด้วยความชำนาญ จากนั้นหลบหนีออกไปทางถนนสายเอเชียพล.ต.ต.โชติวัฒน์กล่าวอีกว่า ตำรวจติดตามจับกุมนายนพพล สอบสวนให้การปฏิเสธ ส่วนมูลเหตุนั้นเกิดจากผู้ตายไปจอดรถหน้าร้านหมูกระทะของนายนพพลอยู่ในพื้นที่ อ.อุทัย มีปัญหาในเรื่องที่จอดรถบริเวณหน้าร้าน เชื่อว่าอาจจะเป็นมูลเหตุของความไม่พอใจ นายนพพลและนายนิกรวางแผนขับมาดักรอผู้ตายแล้วก่อเหตุยิง จากนั้นตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่ร้านหมูกระทะของนายนพพลเพื่อหาหลักฐาน พนักงานของร้านแจ้งว่ากล้องวงจรปิดเสีย นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่นายนพพลมีความแค้นส่วนตัวเรื่องที่ตำรวจวิสามัญฯพี่ชาย จังหวะนั้นมีนักข่าวถ่ายคลิปแล้วยุให้ตำรวจยิงซ้ำ เมื่อตรวจสอบนายนพพลเข้าใจว่าผู้ตายเป็นคนยุให้ตำรวจยิง กลายเป็นเรื่องบาดหมางคาใจกันมานาน ขณะนี้พนักงานสอบสวนคุมตัวนายนพพลส่งฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมนายนิกรมาดำเนินคดีขณะที่ภรรยานายนพพลเดินทางมาที่ สภ.อุทัย ขอเข้าเยี่ยมสามีพร้อมเปิดเผยว่า ทนายความเตรียมยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล ตนร้องขอความเป็นธรรมให้กับสามีว่า หลังจากสามีออกมาจากคุกก็ตั้งใจทำมาหากิน เปิดร้านหมูกระทะ ดูแลครอบครัวมาโดยตลอด ข่าวที่ออกไปเชื่อมโยงเรื่องเก่าสร้างตราบาปให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ขอให้นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อย่าไปเชื่อมโยงกับ “โจ๊ก ไผ่เขียว” พี่ชายกลายเป็นเรื่องการล้างแค้น ไม่เป็นความจริง ในส่วนประเด็นที่ผู้ตายมาจอดรถขวางทางร้านแล้วมีปากเสียงกับสามีตนไม่ทราบต่อมาเวลา 14.00 น. น.ส.กิตติพร แผนกทาน อายุ 49 ปี ภรรยาของนายสิงหวัฒน์ ดารา อายุ 49 ปี ผู้ช่วยนักข่าวท้องถิ่นผู้เสียชีวิต พร้อมลูกสาวและแม่ นิมนต์พระวัดคานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ หลังจากเสร็จพิธีญาติถือรูปของผู้ตายเดินทางไปที่วัดคานหามเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา น.ส.กิตติพรเปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่ที่ จ.ปัตตานี ช่วงเช้าก่อนที่สามีถูกยิงเสียชีวิต สามียังโทรศัพท์มาหาตนบอกว่า จะพาสุนัขไปฉีดวัคซีนและไปกินข้าว ไม่คิดว่าการพูดคุยครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ตนเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นาน ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่