กทม.เจอฝนหลายพื้นที่เกือบทั่วกรุงตั้งแต่เย็นจนถึงค่ำ ส่งผลมีน้ำท่วมถนน อาทิ หน้าตลาดอุดมสุข เขตบางนา ขณะที่ถนนสุขุมวิท ถนนสรรพาวุธ ถนนลาซาล มีน้ำท่วมขังผิวจราจรสูงประมาณ 25-30 ซม. รถราแล่นลำบาก น้ำในคลองบางนาเพิ่มสูงเจ้าหน้าที่เดินเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำ ด้านเทศบาลนครนนทบุรี เร่งบรรจุกระสอบ ทรายเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือหลาก เตือนประชาชน ที่บ้านติดริมเจ้าพระยาอพยพข้าวของหนีน้ำแต่เนิ่นๆ กรมชลประทานสั่งสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ตามอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ แม่น้ำสายหลักต่างๆเป็น ข้อมูลจัดการน้ำให้เหมาะสมฝนยังฉ่ำฟ้าในหลายภูมิภาคทั่วไทย ขณะที่ กทม.มีฝนตกหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนทำให้การจราจรติดขัดประชาชนสัญจรลำบาก โดยเมื่อเย็นวันที่ 26 ก.ย. ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพ มหานคร รายงานว่าตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงเวลา 20.30 น.วันเดียวกัน มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางเขน คลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง ลาดพร้าว วังทองหลาง บางซื่อ ดุสิต พญาไท ฝั่งพระนครชั้นใน ปทุมวัน ยานนาวา บางคอแหลม สาทร จอมทอง ราษฎร์บูรณะ ภาษีเจริญ ธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค หนองแขม บางบอน ทุ่งครุ บางขุนเทียน ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่เขตพระโขนง 136.0 มม.ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ฝนตกตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงค่ำทำให้มีน้ำท่วมขังที่บริเวณหน้าตลาดอุดมสุข ถนนอุดมสุข เขตบางนา เจ้าหน้าที่ กทม. ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยจัดรถเทศกิจ 2 คัน ปกครอง 1 คัน ให้บริการประชาชนที่ต้องเดินฝ่าสายฝนลุยน้ำท่วม นอกจากนี้ที่ถนนสุขุมวิท มีน้ำท่วมขังผิวจราจรสูงประมาณ 25-30 ซม. ถนนสรรพาวุธ ถนนลาซาล มีน้ำท่วมขังผิวจราจรสูงประมาณ 25-30 ซม.ระดับน้ำในคลองบางนา มีระดับสูง เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพร้อมเดินเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำ ทำความสะอาดหน้าตะแกรงรับน้ำ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ที่ จ.นนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศ มนตรีนครนนทบุรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเตรียมบรรจุกระสอบทรายจำนวน 100,000 ใบ สำหรับเตรียมพร้อมเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง และยังขุดลอกคูคลองในเขตเทศบาล เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็กสถานีสูบน้ำ เครื่องสูบน้ำให้พร้อมใช้งาน จัดเวรยามเฝ้าสถานีตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวังหากมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำทุกชั่วโมง ขณะเดียวกันให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนติดริมแม่น้ำเจ้าพระยายกข้าวของขึ้นที่สูงแต่เนิ่นๆที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชล ประทาน สามเสน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ (กรุงเทพมหานคร) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นต้น ให้ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ แม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่นายทวีศักดิ์เผยว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 49,496 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 65% ของความจุอ่างฯ รวมกัน รับน้ำได้อีก 26,886 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 12,588 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีก 12,283 ล้าน ลบ.ม. ส่วนพื้นที่ตอนกลางได้ยกบานระบายเขื่อนทดน้ำทุกแห่งขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมประเทศลาว ประกอบกับแนวร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเล อันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่