ปริญญา วิไลรัตน์ เจ้าของบ้านไร่ภูแสนดาว ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา หนึ่งในสมาชิกชมรมอะโวคาโดปากช่องเขาใหญ่ เผยว่า สนใจอะโวคาโดมากว่า 5 ปีแล้ว เพราะเป็นพืชที่ดูแลไม่ยากนัก ปลูกได้ทุกฤดูหากมีน้ำเพียงพอ ให้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 5 ตัน โดยให้ผลผลิตเต็มที่เมื่ออายุ 5 ปี ได้ราคาค่อนข้างดี ได้ทั้งกินสดและแปรรูปเป็นเวชสำอาง มีทิศทางที่สดใส เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศอยู่ ที่สำคัญคนไทยกินผลไม้ชนิดนี้เป็นเพียง 10% เท่านั้น ฉะนั้นหากคนไทยรู้จักอะโวคาโดมากขึ้น ความต้องการจะเพิ่มขึ้น เจ้าของบ้านไร่ภูแสนดาว บอกต่อไปว่า ด้วยเหตุนี้จึงใช้พื้นที่ 10 ไร่ ทดลองปลูกอะโวคาโดหลากหลายสายพันธุ์รวมกว่า 500 ต้น อาทิ พันธุ์บัคคาเนีย, ปีเตอร์สัน, บูธ7, ปีเตอร์แฮส, พิงค์เคอตัน, รี้ด และอีกหลายสายพันธุ์ที่รวบรวมได้กว่า 50 สายพันธุ์ เพื่อทดลองปลูกให้ได้สายพันธุ์ดี ที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสาน และพื้นที่อื่นในประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการปลูกให้กับสวนอื่นนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม “พืชทุกชนิดไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นกับสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ปัจจัยต่างๆหลายตัว อะโวคาโดไม่ต่างกัน สายพันธุ์ไหนพอไปได้ก็จะขยายพันธุ์ปลูกลงแปลง แล้วศึกษาว่าเหมาะกับพื้นที่ไหนอย่างไร มีอัตราการให้ธาตุอาหารที่เหมาะสมอย่างไร ส่วนหนึ่งก็จะนำมาผสมข้ามพันธุ์ เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ นำข้อดีของแต่ละสายพันธุ์มารวมกัน ให้ได้สายพันธุ์ที่ดีที่สุด ที่เหมาะสมกับการปลูกในพื้นที่ต่างๆในประเทศ โดยมีเป้าหมายให้ไร่แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านอะโวคาโดโดยเฉพาะ เพราะบ้านเรายังมีศูนย์เรียนรู้ประเภทนี้น้อย”ส่วนอะโวคาโดสายพันธุ์ไหน เหมาะกับพื้นที่ไหน ปริญญา แนะนำ...พื้นที่ราบลุ่มกับพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลโดยพื้นที่สูง บ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นภาคเหนือและภาคอีสาน เหมาะกับสายพันธุ์ บัคคาเนีย ผลขนาดกลาง น้ำหนัก 300-500 กรัม ผิวผลขรุขระ ผลกลมรี เนื้อแน่นเหนียว รสชาติมัน, แฮส ผลค่อนข้างรีรูปแพร์ ผิวขรุขระมาก ผิวสี ผลขนาดเล็กน้ำหนักประมาณ 200-300 กรัม เมล็ดเล็กถึงขนาดกลาง ถือเป็นสายพันธุ์การค้าอันดับหนึ่งของโลก, พันธุ์บูธ7 เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์กัวเตมาลัมและเวสอินเดียน ผลค่อนข้างกลม ขนาดกลาง น้ำหนัก 300-500 กรัม ผิวผลขรุขระเล็กน้อย เปลือกหนา นอกจากนี้ยังมี พันธุ์รูเฮิล ทนความร้อนได้ดี รสชาติหวานมัน ผลดก, เฟอร์เต้ รสชาติดี ผลรีรูปไข่ทรงยาวคล้ายลูกแพร์ ผิวขรุขระเล็กน้อย น้ำหนักผล 150-300 กรัม, ปีเตอร์สัน ผลค่อนข้างกลม มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง น้ำหนัก 200-300 กรัม เมล็ดใหญ่, ปีเตอร์แฮส เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์ปีเตอร์สันกับแฮส รสชาติคล้ายแฮส แต่ติดหวานแบบปีเตอร์สัน น้ำหนักผลประมาณ 2.5 กรัม, พิงค์เคอตัน ลูกเหมือนแฮสแต่ใหญ่กว่า เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมบริโภคเป็นอันดับที่ 2 รองจากแฮส รสชาติมัน คล้ายแฮส ชาวต่างชาติค่อนข้างนิยม รสชาติออกมัน เนื้อแน่นส่วนสายพันธุ์ที่เหมาะกับการปลูกในพื้นราบ โดยเฉพาะภาคกลาง ได้แก่ ปีเตอร์สัน, พันธุ์บูธ7 และบัคคาเนีย สนใจสอบถามรายละเอียด โทร.08-7824-9900.