ปัญหาเยาวชนก่อความรุนแรงในสังคมยังมีอยู่ต่อเนื่อง สุจริตชนหลายคน ตั้งคำถามถึงการลงโทษแบบผู้ใหญ่?นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกเทคโนโลยีสารสนเทศ และรองโฆษกสภาทนาย อดีตทนายโจทก์คดี “ประหารหมอวิสุทธิ์ฆ่าหั่นศพหมอผัสพร” ให้ความเห็นว่า...กฎหมายเขียนบทลงโทษเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีที่ทำผิดอาญาและต้องรับโทษตามกฎหมายหรือไม่เพียงใดไว้ชัดเจน ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 73-74เดิมกฎหมายอาญาบอกว่า เด็กอายุไม่เกิน 10 ปีทำผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ต่อมาในปี 2565 มีการแก้ไขอายุจาก 10 ปีเพราะยังเด็กเกินไป จึงแก้ไขอายุเป็น 12 ปีและในมาตรา 74 บอกว่า กรณีเด็กอายุเกิน 12 ปีแต่ไม่เกิน 15 ปีทำผิด แม้ไม่ต้องรับโทษ แต่ต้องนำเข้าสู่มาตราที่กฎหมายกำหนดไว้ในอนุ 1-5 ของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 74 เช่น ให้พ่อแม่รับตัวไปอบรมเอง แต่ในอนุ 5 บอกว่ากรณีก่อเหตุร้ายแรงให้ส่งตัวไปฝึกอบรมในสถานพินิจ (หรือคุกเด็ก)ได้จะเห็นว่า กฎหมายมีเจตนารมณ์มุ่งฟื้นฟูจิตใจเด็กมากกว่าเอาไปลงโทษติดคุกตะราง?ถ้าสังคมมองว่า เด็กก่ออาชญากรรมรุนแรงมาก ต้องยอมรับว่า เรามีประมวลกฎหมายอาญาออกมา เราต้องยอมรับกฎหมาย สังคมต้องตระหนักว่า ภาระของพ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องสอดส่องเอาใจใส่ดูแลพฤติกรรมของลูกหลานที่อยู่ในความปกครองดูแล หลังจากได้รับคำสั่งตามมาตรการในอนุ 1-4 ที่เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเด็กบางคนพ่อแม่ไม่สนใจไปตั้งแก๊งนั่งตามสะพาน ริมถนนคอยก่อเหตุ ตำรวจต้องสอดส่องเป็นภาระเพิ่มขึ้น?!ดังนั้น พ่อแม่ต้องให้ความใกล้ชิด อย่าปล่อยปละ เช่น ยอมมอบกุญแจรถ จยย.ไปขี่แข่งขัน ขี่ไปชิงทรัพย์ ก่อเหตุอันตรายอื่นๆ อย่างนี้ถือว่าพ่อแม่สนับสนุนแล้ว (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก)หรือพ่อแม่เลี้ยงตามใจ อันนี้อันตรายที่สุด!แม้มาตรา 73 กับ 74 เป็นบทที่ยกเว้นโทษให้เด็ก แต่เมื่อเกิดความผิดแล้วถูกดำเนินคดีอย่าลืมว่าจะมีประวัติอาชญากรติดตัว ย่อมไม่เป็นผลดีกับตัวเด็กแน่นอน...สหบาท