“รองโจ๊ก-สุรเชษฐ์ หักพาล” แถลงปิดคดีนายดาบตำรวจลักปืนหลวงจากคลังแสงของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไปขาย 160 กระบอก พบพลเรือนเกี่ยวข้อง 23 คนส่วนใหญ่เป็นคนคุมบ่อนพนันและนักเล่นอีก 8 คนเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ สารวัตร ถูกดำเนินคดี ม.157 ส่งให้ ป.ป.ช.ชี้มูล แฉปืนที่หายประมาณ 20 กระบอกถูกส่งออกไปให้กองกำลังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว กำชับช่วงเลือกตั้งหากยิงกันผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ต้องรับผิดชอบด้วยที่สโมสรตำรวจ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงปิดคดีลักปืนหลวงของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 ตำรวจจับกุม ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ปากเกร็ด ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจเก็บและดูแลอาวุธปืนหลวงในคลังของ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากการตรวจสอบพบ ด.ต.เชาวลิตลักขโมยปืนในคลังไปมากถึง 160 กระบอก และนำไปจำนำให้บุคคลอื่น เบื้องต้นคณะพนักงานสอบสวนดำเนินคดี กับ ด.ต.เชาวลิตใน 2 ข้อหา คือลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ หลังจากนั้น พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการให้สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย มี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พร้อมชุดสืบสวนเร่งติดตามปืนของกลางในคดีกลับมา กระทั่งจับกุมผู้เกี่ยวข้องเป็นพลเรือนชาย-หญิง รวม 23 คน แจ้งข้อหาแล้ว 1 ราย ออกหมายจับแล้ว 22 คน จับกุมได้ 18 คน อายัดตัว 4 คน ทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหารับของโจรพล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังมีนายตำรวจระดับผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ สารวัตร อีก 8 นาย ถูกแจ้งข้อหาตาม ม.157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ประกอบด้วย อดีต ผกก.สภ.ปากเกร็ด 2 นาย อดีตรอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด 3 นาย อดีต สว.อก.สภ.ปากเกร็ด 2 นาย และอดีตรองสว.อก.สภ.ปากเกร็ด 1 นาย ทั้งหมดดำรงตำแหน่งในช่วงเวลาต่างกันระหว่างปี 57-65“ขณะนี้ตำรวจติดตามปืนหลวงกลับมาได้แล้ว 64 กระบอก เหลืออีก 96 กระบอก อยู่ระหว่างติดตาม เบื้องต้นมีประมาณ 20 กระบอกถูกส่งไปให้กองกำลังในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นปืน เอ็ม 16 อาวุธสงคราม สำหรับสำนวนในคดีนี้ประกอบด้วยเอกสารมากกว่า 2,200 แผ่น สอบปากคำพยาน 30 ปาก ศาลมีคำพิพากษาจำคุก ด.ต.เชาวลิต 256 ปี 168 เดือน แต่จำคุกจริง 50 ปี ตามกฎหมาย ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีก 23 คน อยู่ระหว่างสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช.ชี้มูลคดีดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มี.ค.” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังระบุด้วยว่า สำหรับผู้เกี่ยวข้องทั้ง 23 คนนั้น ส่วนใหญ่เป็นนักพนันหรือคนคุมบ่อนการพนันที่ต้องการมีอาวุธปืน มีบางรายขายต่อเพื่อเอาเงินส่วนต่าง การดำเนินคดีกับนายตำรวจที่เป็นผู้บังคับบัญชานั้น สื่อให้เห็นว่าเมื่อมีลูกน้องใต้บังคับบัญชาทำความผิด จะปล่อยให้มีความผิดคนเดียวไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบร่วมด้วย จึงต้องดำเนินการย้อนหลังจะได้มีความรับผิดชอบในหน้าที่การทำงานมากขึ้น และไม่ควรปล่อยปละละเลย จนเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดยังอยู่ในตำแหน่งราชการ ยังไม่มีการให้ออกจากราชการ แต่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ม.29 ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลจะสิ้นสุด โดยทั้งหมดยังมีสิทธิในราชการเช่นเดิม แต่ในการพิจารณาตำแหน่งตามรอบวาระอาจต้องใช้การพิจารณามากกว่าบุคคลอื่นเนื่องจากมีมลทินติดตัว“ผมสั่งกำชับให้ ผบก. และ ผกก.ทั่วประเทศ ปิดล้อมตรวจค้นคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน หากพื้นที่ใดมีคดีใช้อาวุธปืนยิงกันในช่วงเลือกตั้ง ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่นั้นจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว