นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคว่า ที่ประชุมยังคงแนะนำการให้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ในนักเรียนชั้น ป.5 จำนวน 2 เข็ม แม้ว่าในช่วงปี 2562-2564 ได้เกิดการขาดแคลนวัคซีน HPV ทั่วโลก จากปัญหาโรงงานผลิตวัคซีนไม่สามารถผลิตวัคซีน HPV ได้เพียงพอ เนื่องจากวิกฤติการระบาดโควิด 19 ทั่วโลก ส่งผลให้เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ปีการศึกษา 2562-2564 ประมาณ 1.2 ล้านคน เกิดเสียสิทธิที่พึงได้รับจากรัฐ จากที่ไม่ได้รับวัคซีน HPV ตามแผนงานฯ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกในอนาคตแต่ในปี 2565 บริษัทผู้ผลิตวัคซีนได้มีการจัดส่งวัคซีน HPV จำนวน 8 แสนโดส ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการฉีดนักเรียนชั้น ป.5 ปีการศึกษา 2565 และได้มีการสั่งซื้อวัคซีน HPV จำนวน 8 แสนโดส สำหรับเด็กนักเรียนชั้น ป.5 ปีการศึกษา 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนเพียงพอสำหรับการเก็บตกนักเรียนชั้น ป.5 ปีการศึกษา 2562-2564 ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงร่วมมือกันผลักดันการจัดหาวัคซีน HPV สำหรับเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนปี 2562-2564 ยืนยันว่าเด็กที่ตกค้างจะได้รับวัคซีนครบทุกรายตามความสมัครใจนพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับหนังสือยืนยันว่า ในปี 2566 และ 2567 บริษัทผู้ผลิตสามารถจัดหาวัคซีน HPV ได้เพียงพอสำหรับการฉีดเก็บตกในเด็กนักเรียนชั้น ป.5 ที่ตกค้างได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าวัคซีน HPV ที่จัดหาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทยมีประสิทธิภาพสูง สามารถครอบคลุมสาเหตุของการเกิดโรค มะเร็งปากมดลูกได้ดี โดยเฉพาะหากฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์.