“ตนพูดมาตั้งแต่รับตำแหน่งว่าจะกวาดบ้านตัวเองที่มีตำรวจกว่า 2 แสนนาย ใครมีเบาะแสอะไรแจ้งมาที่สายด่วน 191 และ 1599 รวมถึงระบบร้องเรียนร้องทุกข์ของจเรตำรวจทางออนไลน์ ยังสั่งให้ผู้บังคับ บัญชาระดับสูงลงพื้นที่ให้ประชาชนมั่นใจว่าหากตำรวจคนนี้ไม่ดี เราจะรับเรื่องไว้และหากมีเรื่องเข้ามาไม่ดำเนินคดีแค่ตำรวจที่มีเรื่องจะ ดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาเพราะถือว่าควบคุมดูแลลูกน้องไม่ดี”คำยืนยันของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ตั้งแต่วันแรกรับตำแหน่ง ผบ.ตร.ในการแก้ปัญหา “ตำรวจนอกแถว” ปัดกวาดบ้านของตำรวจเองให้สะอาด ทำให้คนไทยเชื่อมั่นและศรัทธากับองค์กรตำรวจตลอดเวลาเกือบ 4 เดือนที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ รับนำหน้าที่ผู้นำสีกากี ได้ทำตามนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ไล่กวาดขยะใต้พรมที่หมักหมมในองค์กรตำรวจ ทำให้ตำรวจขาวสะอาด บริสุทธิ์ขึ้น ในสายตาของสังคม โยกย้ายระดับ ผู้บังคับการ จังหวัดชายแดนใต้ที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันคดียาเสพติดและผู้มีอิทธิพลย้าย ผู้การภาคตะวันออก คดีต้องสงสัยช่วยเหลือแก๊งอิทธิพลติดตามทวงหนี้ จัดระเบียบ ผบก.ถึงผบ.หมู่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวข้อง “ทุนจีนสีเทา” อำพรางช่วยออกวีซ่านักเรียน ไล่ออกพนักงานสอบสวน และตำรวจนครบาลช่วยคดี “ตู้ห่าว” ปล่อย รถของกลาง ผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย กระทบต่อความเชื่อมั่นของตำรวจที่มีต่อพี่น้องประชาชนคดีตำรวจ 191 ไปตรวจค้นบ้านอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย มีการเรียกรับเงิน ยักยอกเงินของกลาง ทำลายหลักฐาน และปล่อยผู้ต้องหาหมายจับแดงชาวจีนหลบหนีไปเป็นสิ่งที่ ผบ.ตร. ทำมาโดยตลอด ยอมกรีดเลือดตนเอง ยอมเจ็บที่ต้องฟันลูกน้องพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ที่มีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่อยู่กับงานโรงพักย่อมรู้ดีว่า ปัจจุบันสภาพของสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี ทุกอย่างถูกบันทึก ถูกเผยแผ่ได้ภายในเสี้ยววินาที ถ้าตำรวจทำไม่ดี ย่อมถูกสังคมต่อว่า ลงโทษไม่มีใครรอดพ้นเทคโนโลยี ใครทำอะไรไว้ย่อมได้รับในสิ่งที่ทำ ไม่มีความลับในโลกยุคนี้ เป็นเหตุให้ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. กำชับผู้บังคับบัญชาหน่วยกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในสังกัด ใครทำดีชื่นชม เสนอมอบรางวัลตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” ส่วนใครทำไม่ได้ต้องถูกลงโทษล่าสุดกรณี “คลิปตำรวจไทย” ที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนจ่ายเงินแลกกับอำนวยความสะดวกการเข้าสนามบินสุวรรณภูมิและใช้รถนำขบวนส่งที่พักเมืองพัทยาถูกแชร์คนรับไม่ได้พฤติกรรมการทำงานของตำรวจผบ.ตร.สั่งด่วน พล.ต.อ.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ชี้แจง มอบ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พบตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย คือ ร.ต.อ.สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ด.ต.ขจรศักดิ์ แผ่นผา ผบ.หมู่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการท่องเที่ยว 1 ตำรวจจราจรกลาง 2 นาย คือ ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ ต้นสังกัดสั่งย้ายขาดจากต้นสังกัดและสอบผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลยหรือไม่ผบ.ตร.สั่งสอบทุกประเด็นเรื่องรถ ค่าจ้าง ประสานงาน ทำมากี่ครั้ง ทำเป็นขบวนการหรือไม่ไม่ได้คิดปกป้องตำรวจ แต่สอบเพื่อให้ความเป็นธรรม ให้ได้ข้อเท็จจริงและพร้อมลงโทษทันที พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “ไม่ได้รู้สึกหนักใจที่ตอนนี้มีแต่ข่าวเสียหายของตำรวจ แต่ถือเป็นการไปตรวจสอบถ้าตรงไหนที่ไม่ดีก็ต้องแก้ไข หลายเรื่องจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบจะด่วนสรุปเลยก็ไม่ได้ ขอให้ประชาชนใจเย็นเพราะตำรวจกำลังเร่งทำทุกคดีอย่างเต็มที่ “ได้สั่งให้จเรตำรวจดำเนินการเด็ดขาดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏภาพอยู่ในคลิป และขยายผลหากมีคนนอกมาเกี่ยวข้องไม่ว่าทางหนึ่งทางใด กำชับให้ตำรวจทุกนายในทุกสังกัด ห้ามปฏิบัติในลักษณะดังกล่าวอีก มิเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินการทั้งทางอาญาวินัยและปกครองอย่างเด็ดขาดทุกราย”พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.ย้ำว่า “ให้นโยบายไปชัดเจนว่าถ้าพบและมีข้อมูลหลักฐานจะต้องมีการดำเนินการทางวินัยทุกรายโดยไม่มีละเว้น หากผู้บังคับบัญชาปกป้องหรือละเลยจะต้องรับผิดชอบถูกพิจารณาโทษด้วย จะเห็นได้ว่าปีที่ผ่านมาให้ตำรวจออกจากราชการไปถึง 229 นาย ถือว่าเยอะทีเดียวตัวเลขนี้ไม่ได้แสดงถึงความภาคภูมิใจที่เราไล่ตำรวจออกจากราชการเยอะ แต่แสดงให้สังคมเห็นว่าเราให้ความสำคัญและจัดการกับตำรวจที่กระทำผิดอย่างเข้มข้นและจริงจัง ถ้าหากปรากฏภาพชัดเจนว่ามีตำรวจคนไหนกระทำผิดเข้าข่ายวินัยอย่างร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว ซึ่งผมย้ำลงไปเสมอคือต้อง เด็ดขาดและรวดเร็ว” คือ ให้รีบตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทุกราย โดยไม่ต้องรอจนการสอบสวนเสร็จสิ้นและหากมีมูลความผิดอาญาก็ต้องดำเนินคดีอาญาด้วยในทุกกรณี”เป็นหนึ่งบทบาทสำคัญของ ผบ.ตร. และ จตช. ให้ความสำคัญกวาดบ้านตำรวจ ลงโทษตำรวจไม่ดี “ตำรวจนอกแถว” ส่งเสริมให้รางวัลตำรวจทำดีมีผลงานให้ตำรวจอยู่ในวินัย สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน กว่า 3-4 เดือน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้รับแรงกระแทกกดดันจาก นโยบายจัดระเบียบตำรวจ และเสียงสะท้อนของผู้คนในสังคมที่ตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมตำรวจ แต่เป็นสิ่งที่ ผบ.ตร. คาดการณ์ ไว้ตั้งแต่วันมอบนโยบาย การออกมาปัดกวาดบ้านของตำรวจ ย่อมเอาสิ่งที่ไม่ดีมาให้สังคมรับรู้ ดีกว่าหมักหมมไว้ใต้พรมการที่ ผบ.ตร.ไล่ปัดกวาด ดำเนินการกับตำรวจที่ไม่ดี เพื่อจัดระเบียบ สร้างวินัยตำรวจ ถือว่ามาถูกทาง เชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนไทยให้กำลังใจ อยากจะให้ตำรวจปฏิรูปการทำงานจริงๆ ซึ่งการปฏิรูปต้องเริ่มจากตำรวจเอง ตำรวจต้องเป็นตำรวจในอุดมคติที่สังคมคาดหวัง เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ คิดและทำอย่างเต็มที่เชื่อว่าอีกไม่นาน ตำรวจจะดีขึ้นในสายตาประชาชน.ทีมข่าวอาชญากรรม