แม่บ้านสนามบินสุวรรณภูมิถึงฆาต ถูกลูกชายป่วยจิตใช้หัวแก๊สทุบหัวตายสยองคาที่นอนในห้องพักอพาร์ตเมนต์ ซอยลาดกระบัง 26 ส่วนฆาตกรฆ่าแม่ ตำรวจจับกุมไว้ได้ ไม่ยอมให้การนั่งนิ่งหลับตาส่ายหัวไปมา ด้านหลานสาวผู้ตายเผย เคยเตือนผู้ตายให้ระวังตัว เพราะผู้ก่อเหตุหลังรักษาตัวจากอาการวิกลจริตมา 2 ปี กลับไม่กินยาต่อเนื่องเริ่มมีอาการเหมือนเก่าอีก สุดท้ายมาเกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้เหตุลูกป่วยจิตคลั่งฆ่าแม่บังเกิดเกล้าครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ม.ค. ร.ต.ท.กฤษฎา สายคง รอง สว. (สอบสวน) สน.ลาดกระบัง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 346/1 ซอยลาดกระบัง 26 ถนนอ่อนนุช ลาดกระบัง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ พัฒนกิตติสกุล รอง ผกก.ป.สน.ลาดกระบัง ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ สูง 4 ชั้น ห้องเกิดเหตุอยู่บนชั้น 3 เป็นห้องไม่มีเลขที่ บนฟูกที่นอนพบศพนางชัย จันทร์เปรม อายุ 61 ปี พนักงานทำความสะอาด บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่แม่บ้านภายใน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถูกของแข็งไม่มีคมทุบเข้าที่ศีรษะนอนจมกองเลือด ในสภาพตะแคงฝั่งซ้าย มีผ้าห่มคลุมมาถึงเอว เลือดเปรอะหมอน กระเซ็นไปตามพื้นและผนังห้อง ใกล้ศพพบหัวแก๊สเตาแก๊สปิกนิกเปื้อนเลือดตกอยู่ คาดเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปบันทึกเก็บไว้เป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จับกุมนายน้อย จันทร์เปรม อายุ 37 ปี บุตรชายนางชัย ฆาตกรสังหารแม่บังเกิดเกล้าไว้ได้ โดยนายน้อยมีอาการนิ่ง ไม่ยอมให้การใดๆได้แต่ส่ายหัวไปมาและหลับตานิ่งเงียบ ส่วนพยานที่พักอาศัยในอพาร์ตเมนต์เดียวกันให้การว่า เมื่อช่วงสามทุ่มวันที่ 13 ม.ค. มีเสียงคนลักษณะทำร้ายกันออกมาจากห้อง แต่ไม่มีเสียงด่าทอกัน จนกระทั่งญาติผู้ตายมาพบศพถึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบขณะที่หลานสาวนางชัยผู้มาพบศพให้การด้วยเสียงสั่นเครือว่า ผู้ตายมีศักดิ์เป็นอา ส่วนนายน้อยผู้ก่อเหตุเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีอาการไม่ปกติมีสภาพเหมือนคนวิกลจริต ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปี เคยพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา มีประวัติการรักษาแต่เมื่ออาการดีขึ้น นายน้อยกลับไม่กินยาต่อเนื่อง จนระยะหลังมีอาการตาขวาง เคยเตือนผู้ตายแล้วว่า ให้ระมัดระวังตัวหน่อยเพราะอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน ถ้าพูดอะไรไม่เข้าหูนายน้อยอาจจะก่อเหตุทำร้ายได้ เพราะมีอาการไม่ปกติอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุขึ้นจริงๆ ภายหลังจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนตัวนายน้อยนำตัวไปสอบสวน มีเจ้าหน้าที่ พฐ. และแพทย์ร่วมตรวจสอบ เพื่อประเมินอาการป่วย ก่อนพิจารณาสถานที่ควบคุมตัวต่อไป