ทีมนักโบราณคดีจากออสเตรเลีย ได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่งในเขตป่าฝนบนเกาะบอร์เนียวของอินโดนีเซีย ซึ่งการสำรวจถ้ำแห่งนี้พบว่ามีหินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังพบสุสานฝังศพที่มีซากโครงกระดูกมนุษย์ในสภาพไม่บุบสลาย โดยระบุว่า เป็นกระดูกของเด็ก มีอายุ 31,000 ปี ที่น่าสนใจก็คือ โครงกระดูกดังกล่าวไร้ซึ่งเท้าซ้ายและส่วนหนึ่งของขาซ้าย เมื่อทีมวิเคราะห์ดูก็ได้ข้อสรุปว่าเท้ามนุษย์เด็กคนนี้ไม่ได้หายไปหรือแตกหักจากการเกิดอุบัติเหตุ ทว่าเท้าซ้ายถูกตัดออกจากขาจริงๆ อย่างระมัดระวังและแม่นยำ แถมไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อด้วย ทีมเชื่อว่าการตัดแขนขาเกิดขึ้นเมื่อบุคคลดังกล่าวยังเป็นเด็ก และผู้ป่วยยังคงมีชีวิตต่อไปในฐานะผู้ทุพพลภาพเป็นเวลาประมาณ 6-9 ปี จนกระทั่งเสียชีวิตจากสาเหตุที่ยังมืดมนเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่านักล่าหาของป่าในยุคก่อนประวัติศาสตร์รู้เรื่องหยูกยามากพอที่จะทำการผ่าตัดโดยไม่สูญเสียเลือดหรือเกิดการติดเชื้อร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ทีมก็ยังไม่รู้ว่ามนุษย์โบราณที่นี่ใช้เครื่องมือชนิดใดในการตัดแขนขา หรือใช้วิธีไหนเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ แต่ก็คาดการณ์ว่าอาจเป็นเครื่องมือหินมีคม นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นว่าพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ในภูมิภาคแถบนี้มีสรรพคุณทางยา.