น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังสาหัส ขอนแก่น อ่วมน้ำล้น 3 อ่างใหญ่ทะลักท่วม รพ.แวงใหญ่ นอภ.นำเจ้าหน้าที่ ปภ.เร่ง วางบิ๊กแบ็กป้องกันเต็มพิกัด เลยฝนเท 2 วันติด เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมท่าลี่ร่วม 500 หลัง จมบาดาล อุบลฯระทึกดินสไลด์ลงแม่น้ำมูล บ้านพังทั้งหลัง ระยองน้ำลดเริ่มคลี่คลาย ผวจ.ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน 4 อำเภอ 17 ตำบล กรมชลประทานสั่งเด้ง ผอ.โครงการส่งน้ำรังสิตใต้ สังเวยบริหารจัดการน้ำผิดพลาด เครื่องสูบน้ำเจ๊งทำน้ำท่วมจมเมืองรังสิต สมุทรปราการฝนถล่ม 4 ชม.ติด ระบายน้ำลงทะเลไม่ทันทำเอ่อท่วมหลายหมู่บ้าน อุตุฯเตือนยังมีฝนเท กระหน่ำต่อเนื่องไปอีกทั่วทุกภาคของประเทศถึงแม้ว่าฝนจะทิ้งช่วงเบาบางลงบ้างแล้ว แต่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังไม่คลายวิกฤติ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายกรุง นามสง่า นอภ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ ปภ. ลงพื้นที่สำรวจ น้ำท่วมขังภายในพื้นที่ รพ.แวงใหญ่ พร้อมเผยว่า ระดับน้ำท่วมในพื้นที่โรงพยาบาลสูง 30-60 ซม. อาคารคลังพัสดุการแพทย์ ฝ่ายซักล้าง ที่ทิ้งขยะมูลฝอยและบ่อบำบัดน้ำเสีย รวมถึงบ้านพักแพทย์และพยาบาลบางจุดถูกน้ำท่วมแล้วเป็นน้ำที่มาจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 3 อ่าง คือ อ่างห้วยแก อ่างเสือเขี้ยว และอ่างขี้นาก หลังมีปริมาณฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำเอ่อล้นออกมาท่วมพื้นที่บ้านคอนฉิม ต.คอนฉิม รพ.แวงใหญ่ กศน. ศูนย์เด็กเล็ก และทางเข้า รพ.สต.คอนฉิม จะนำบิ๊กแบ็ก มาวางปิดกั้นรอบพื้นที่ รพ.แวงใหญ่ เพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาเพิ่มอีก เจ้าหน้าที่เผยว่า น้ำเริ่มเข้ามาในพื้นที่ รพ.เป็นวันที่ 3 แล้ว ปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้ การทำงานลำบากขึ้น แต่ยังโชคดีที่ตัวอาคารที่ให้ บริการประชาชนยังดำเนินการได้ตามปกติ เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่สูง น้ำยังไม่เข้าอาคาร ระบบทางการแพทย์ยังใช้การได้ตามปกติผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจจุดที่ถูกน้ำท่วมขังอยู่สองข้างทางเส้นทางสายแวงใหญ่ไปแวงน้อย พื้นที่บ้านคอนฉิม หมู่ 9 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ ระยะทางประมาณ 1 กม. น้ำท่วมสูงราว 60 ซม. รถรายังสัญจร ไปมาได้ เจ้าหน้าที่ ปภ. นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเร่ง สูบน้ำออกไปยังลำห้วยเอี่ยน เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำชี จ.เลย ฝนตกหนักตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านและถนน โดยเฉพาะที่บ้านน้ำแคม ต.น้ำแคม อ.ท่าลี่ น้ำป่าจากภูเขาไหลลงฝายน้ำห้วยนกกก จนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและ หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมร่วม 500 หลัง ระดับสูง 50 ซม.ถึง 1 เมตร ชาวบ้านต้องรีบอพยพคนชรา ผู้ป่วย และเด็กเล็กไปที่ปลอดภัย และขนทรัพย์สินขึ้นที่สูง ส่วนที่ ต.นาดินดำ อ.เมืองเลย ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านห้วยม่วง จนเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเตือนภัยอพยพ (สีแดง) ขณะที่ถนนสายมลิวรรณ เลย-วังสะพุง ช่วงปากปวน อ.วังสะพุง น้ำท่วมถนนสูง 50-80 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ จ.อุบลราชธานี ฝนตกต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M 7 สูงขึ้นจนต้องขึ้นธงแดง ให้ชาวบ้านริม 2 ฝั่งแม่น้ำ เฝ้าระวังและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ส่วนบริเวณชุมชนกุดปลาข่อ ถนนพนม เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เกิดเหตุดินสไลด์ทรุดตัว ลงไปในแม่น้ำมูลเป็นทางยาวกว่า 150 เมตร มีบ้านเรือนพังเสียหาย 1 หลัง โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย หลังเกิดเหตุ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.อุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบให้การช่วยเหลือ พบว่าจุดเกิดเหตุมีบ้าน 3 หลัง ได้รับความ เสียหาย 1 หลัง เจ้าหน้าที่เก็บกู้ซากบ้านและปรับพื้นที่ ให้เป็นจุดพักพิงชั่วคราว ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้ดินอุ้มน้ำมากเกินไปจนเกิดดินสไลด์ลงแม่น้ำ การแก้ไขระยะยาวจะสำรวจตรวจสอบ และออกแบบถนนใหม่เพื่อให้มั่นคงแข็งแรงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกจ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 17 ตำบล ใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองระยอง อ.บ้านค่าย อ.วังจันทร์ และ อ.แกลง รวม 83 หมู่บ้านเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) หลังเกิดน้ำท่วมรุนแรงทำให้บ้านเรือนนับหมื่นหลังได้รับความเสียหาย สำหรับ อ.แกลง พื้นที่ ต.บ้านนา ต.ทุ่งควายกิน และ ต.กระแสบน น้ำยังท่วมขังตามถนนและในหมู่บ้าน ชาวบ้านเริ่มทยอยเข้าไปในบ้านของตัวเองทั้งที่ยังมีน้ำท่วมอยู่ ส่วนถนนสายหลักน้ำลดลงจนสามารถสัญจรได้แล้ว บริเวณหน้า รพ.แกลง คนงานนำถุงทรายที่ใช้กั้นน้ำ ออกเพื่อให้ประชาชนนำรถเข้าออกได้ตามปกติที่แม่น้ำประแสร์ บริเวณสะพานท่ากะพัก-ทะเลน้อย ต.ทุ่งควายกิน เจ้าหน้าที่กรมชลประทานที่ 9 นำเรือ ผลักดันน้ำ 4 เครื่อง มาติดตั้งเร่งผลักดันน้ำจากแม่น้ำ ออกสู่ทะเลจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมอยู่ลดลงได้ ขณะที่ อ.เมืองระยอง อ.บ้านค่าย และ อ.วังจันทร์ น้ำลดลง เกือบหมดแล้วเช่นกัน ชาวบ้านผู้ประสบภัยต่างต้องการ ให้ภาครัฐช่วยเยียวยาความเสียหายของทรัพย์สินและ พืชผลการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ จ.ปทุมธานี สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เทศบาลนครรังสิต อ.ธัญบุรี ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ยังขึ้นธงแดงอยู่ที่ 1.8 เมตร ลดลงจากเดิมเพราะไม่มี ฝนตกลงมา ถนนเลียบคลองรังสิตรวมไปถึงซอยที่ติดริมคลองยังมีน้ำท่วมขังเป็นจุดๆ แต่รถเล็กยังสัญจรได้ กำลังทหารยังช่วยกันกรอกกระสอบทรายไว้ให้ประชาชนที่ต้องการนำไปกั้นน้ำไม่ให้เข้าท่วมบ้านเรือนของตัวเอง ส่วนบริเวณทางขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ยังคงมีประชาชนนำรถยนต์ไปจอดหนีน้ำจำนวนมาก ขณะที่ตลาดรังสิต ยังมีน้ำขังรอการระบายอยู่หลายจุด แต่จุดหลักด้านหน้า ตลาดน้ำลดลงไปมากแล้ว จะมีแค่ถนนหลังตลาดที่ยังมีน้ำท่วมสูงห้ามรถผ่าน ส่วนหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ตอนนี้ระดับน้ำแห้งหมดแล้ว จะมีแค่บนถนน รังสิต-ปทุมธานี บริเวณหน้าหมู่บ้านที่ยังมีน้ำท่วมขัง ผิวการจราจรทำให้รถชะลอตัวผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทาน มีคำสั่งที่ 485/2565 ย้ายนายโบว์แดง ทาแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ สำนักงานชลประทานเขต 11 กรมชลประทาน ไปทำหน้าที่หน้าห้องรองอธิบดีกรมชลประทาน (นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล) ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.65 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง คาดว่าคำสั่งย้ายมาจากการบริหารจัดการ น้ำผิดพลาด มีปัญหาเครื่องสูบน้ำเสียที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จนไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เทศบาลนครรังสิต สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นอย่างมาก จ.สมุทรปราการ ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 01.00 น. ทำให้หลายหมู่บ้านในพื้นที่ อ.บางบ่อ มีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะที่หมู่บ้านทิพมาศ-เสรี ถนนปานวิถี ต.บางบ่อ ชาวบ้านกว่า 1,300 หลังเดือด ร้อนหนัก รถจมน้ำหลายสิบคัน เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำระบายออกแต่ทำได้ไม่เต็มที่เพราะน้ำในคลองกันยาก็สูงเกือบถึงระดับเดียวกับน้ำในหมู่บ้าน นายวัฒนา เจริญจิตร นอภ.บางบ่อ ลงมาดูพื้นที่กล่าวว่า สาเหตุเนื่องจากฝนตกหนักกว่า 4 ชม. ประกอบกับมีน้ำสะสม อยู่ในคลองสำโรงเป็นจำนวนมากทำให้ระบายออกสู่ ทะเลไม่ทัน ประสานให้เร่งระบายน้ำในคลองสำโรงโดยเร็ว ส่วนที่หมู่บ้านรัตนธานี ซอย 4 ต.บางแก้ว อ.บางพลี มีบ้านเรือนกว่า 50 หลัง น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร มานานกว่า 1 สัปดาห์ ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามา ช่วยเหลือชาวบ้านต้องใช้ชีวิตยากลำบาก วอนช่วยเร่งสูบน้ำออกให้ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายสภาพอากาศช่วงวันที่ 10-13 ก.ย. ร่องมรสุมเริ่มมีกำลังอ่อนลงและจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนช่วงวันที่ 14-15 ก.ย. ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้