“โจ๊ก” แถลงจับกุมเพื่อนร่วม รุ่น นรต.47 ยศ “พ.ต.อ.” แอบอ้างชื่อรีดเงิน 6 ล้านบาท ค่าวิ่งเต้นประกันตัวหนุ่มอังกฤษมีหมายแดงอินเตอร์โพลคดียาเสพติดในประเทศอังกฤษ หลังถูกตำรวจ ตม.จับกุมขณะหนีมากบดานที่หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต เบื้องต้นรับสารภาพแจ้งข้อหาฉ้อโกง พร้อมออกหมายเรียกคนในครอบครัวที่ช่วยรับโอนเงินมาดำเนินคดีที่ห้องประชุม สน.ปากคลองสาน เมื่อเวลา 10.15 น.วันที่ 19 ก.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.ปิยะมิตร วิภาตะศิลปิน รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.สน.ปากคลองสาน พร้อมทีมพนักงานสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำ พ.ต.อ.ราเมศ แก้วสูงเนิน ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.แม่ฮ่องสอน หลังเข้ามอบตัวกรณีร่วมกับพวกฉ้อโกงและแอบอ้างสนิทกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หลอกลวงผู้เสียหายเพื่อนผู้ต้องกักชาวต่างชาติว่า สามารถช่วยเหลือทางคดีให้ได้รับการประกันตัว พร้อมเรียกรับเงิน 6 ล้านบาทหลังการประชุมประมาณ 1 ชม. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมนายรีเตช พาเทล (Ritesh Patel) อายุ 39 ปี ชาวอังกฤษ ขณะท่องเที่ยวอยู่บริเวณหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต โดยใช้พาสปอร์ตปลอมชื่อนายเบรต แบล็ค เว็บเบอร์ สัญชาติอังกฤษ เจ้าหน้าที่ ตม.ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับสากลคดียาเสพติด ทางการประเทศอังกฤษมีความประสงค์ให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ตำรวจ ตม.นำตัวมาควบคุมที่ห้องกัก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.ต่อมา น.ส.ธิรวรรณ์ เขียวงาม เพื่อนผู้ต้องกักและเป็นผู้เสียหายเข้ามาขอประกันตัว แต่ไม่สามารถประกันตัวได้ ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือไปยังนายธนัญวัธน์ ธนันธัญภัทรน์ ที่รู้จักกับนายวิทยา สมศรีษมสกุล เพราะนายวิทยารู้จัก พ.ต.อ.ราเมศ แก้วสูงเนิน ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จ.แม่ฮ่องสอน นักเรียนนายร้อยรุ่น 47 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มั่นใจว่าสามารถช่วยเรื่องประกันตัวนายรีเตชได้ ทำให้ น.ส.ธิรวรรณ์ และนายธนัญวัธน์หลงเชื่อชำระเงินค่าดำเนินการให้ พ.ต.อ.ราเมศไปจำนวน 6 ล้านบาทวันที่ 29 มิ.ย. นายธนัญวัธน์และนายวิทยาไปติดต่อร้อยเวรรักษาการณ์ประจำสถานกักกันคนต่างด้าว (สวนพลู) ขอเข้าเยี่ยมนายรีเตช แต่ร้อยเวรแจ้งว่าไม่สามารถเข้าพบได้เนื่องจากผิดระเบียบเข้าเยี่ยม นายวิทยาพยายามให้ร้อยเวรพูดคุยโทรศัพท์กับบุคคลที่อ้างว่าเป็น พ.ต.อ.ราเมศ ชุดทำงาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์อ้างว่า ผู้ต้องกักทำงานเป็นสายให้จะเข้าพบผู้ต้องกักให้ได้ แต่ร้อยเวรยืนยันว่า เข้าพบไม่ได้เพราะขัดระเบียบปฏิบัติ ให้ติดต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรง หลังจากนั้นนายวิทยาแจ้งให้ น.ส.ธิรวรรณ์และนายธนัญวัธน์โอนเงินมาให้ครบ 6 ล้านบาท เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้ครบและสอบถามเรื่องประกันตัว นายวิทยาพยายามบ่ายเบี่ยงหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ ตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ สน.ปากคลองสาน เนื่องจากเป็นพื้นที่โอนเงิน แนวทางการสืบสวนพบว่า นายวิทยาติดต่อกับ พ.ต.อ.ราเมศ ในห้วงเวลาเกิดเหตุจริง มีพยานบุคคลยืนยันได้ว่า ทั้งคู่แอบอ้าง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่วนเส้นทางการเงินจำนวน 6 ล้านบาท แบ่งกระจายไปตามบัญชีต่างๆ โดยโอนให้นายวิทยา 3 แสนบาท ส่วนที่เหลือโอนกระจายไปยังคนในครอบครัว พ.ต.อ.ราเมศ ประกอบไปด้วย มารดา ภรรยา และบุตร ก่อนโอนกลับเข้ามายังบัญชี พ.ต.อ.ราเมศ รวม 5 ล้านกว่าบาท พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกครั้งที่ 1 จำนวน 4 คน ได้แก่ นายวิทยา สมศรีษมสกุล อายุ 67 ปี นายอภิรักษ์ เที่ยงธรรม อายุ 43 ปี น.ส.ณัฐนรี บุญมา อายุ 35 ปี และ น.ส.ทิพย์สุดา อินสองใจ อายุ 26 ปีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เบื้องต้นพูดคุยกับเพื่อร่วมรุ่น เจ้าตัวให้การรับสารภาพ จากการสืบสวนพบว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ผู้ต้องหาเคยมีพฤติการณ์ลักษณะนี้หลายครั้ง แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงไว้ก่อน และให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำอย่างละเอียด แม้ว่าจะเป็นเพื่อร่วมรุ่นแต่ถ้าเพื่อนทำผิดต้องดำเนินคดี เพื่อนดีต้องส่งเสริม เพื่อนไม่ดีไม่ละเว้น ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตนจับกุมผู้แอบอ้างชื่อเพื่อกระทำความผิดรายนี้เป็นรายที่ 5 แล้ว ไม่รู้สึกกังวลแต่เกรงประชาชนจะหลงเชื่อ ฝากประชาชนถ้าต้องการสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตน โทร.มาได้ที่ สว.นนท์ ตำรวจติดตามหมายเลข 06-4954-9197 ยืนยันตนไม่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ ฝากถึงกลุ่มบุคคลที่อ้างชื่อตนกระทำความผิดว่าจะดำเนินการจับกุมให้หมด