ตราดฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้น้ำป่าเทือกเขาบรรทัดไหลบ่าท่วมบ้านเรือนใน ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ กว่า 20 หลังอย่างรวดเร็ว น้ำสูงกว่า 1 เมตร จนขนย้ายข้าวของไม่ทัน เพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักล้นทะลักท่วม อ.หล่มเก่า และหล่มสัก กระแสน้ำกัดเซาะพนังกั้นน้ำชั่วคราวพัง น้ำทะลักท่วมเขตเทศบาลเมืองจมบาดาล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 800 หลัง ขณะที่ จ.สมุทรปราการ ฉะเชิงเทราและชลบุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูงทำให้ น้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะชุมชนย่านบางปู อ่วมหนัก น้ำทะเลทะลักท่วมบ้านเร็วจนย้ายข้าวของไม่ทัน รถราจมน้ำเสียหายไปตามๆกันฝนตกหนักน้ำป่าทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนจมบาดาล โดยเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ก.ค. หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องหลายวันในพื้นที่ จ.ตราด ทำให้เกิดน้ำป่าเทือกเขาบรรทัดไหลบ่าลงอ่างเก็บน้ำคลองหลอด 2 และอ่างเก็บน้ำด่านชุมพลจนล้นสปิลเวย์ ไหลหลากลงคลองสังข์เอ่อท่วมพื้นที่บ้านด่านชุมพล ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ อย่างรวดเร็ว ถนนสายด่านชุมพล เส้นทางสายหลักน้ำท่วมผิวจราจรเล็กน้อย ส่วนที่ทำการ อบต.ด่านชุมพล น้ำท่วมสูง 20 ซม. ขณะที่ซอยสัมพันธ์ไมตรี 10 ถนนด่านชุมพล เป็นที่ลุ่มน้ำป่าไหลทะลักท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูง 30-130 ซม. บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 20 หลัง รถกระบะ 2 คันถูกน้ำท่วมเกือบครึ่งคัน ขณะที่ ต.ใกล้เคียง คือ ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด ที่บ้านฉางเกลือ และบ้านทุ่งพีด เป็นพื้นที่รับน้ำจากคลองห้วยแร้ง และคลองฉางเกลือ น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรริมคลองแล้ว ต่อมานายกมล กิจจานนท์ นายก อบต.ด่านชุมพล ร่วมกับทหารเรือชุดตรวจคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 (บ่อไร่) เข้าช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินออกมาไว้ในที่ปลอดภัย โดยนายกมลกล่าวว่า ฝนตกหนักมาหลายวันแล้วและเมื่อเช้ามืดมีน้ำป่าไหลผ่านหมู่บ้านห้วงไม้หอม และบ้านเขาขาด เข้าท่วมบ้านเรือนในซอยสัมพันธ์ไมตรี 10 ราว 20 หลังคาเรือน มีทรัพย์สินต่างๆได้รับความเสียหาย หากฝนไม่ตกลงมาอีกระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 ชั่วโมง ส่วนที่ทำการ อบต.ด่านชุมพล น้ำลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วนางมะลิวัลย์ ไขสกุล ชาวบ้านในซอยสันพันธ์ไมตรี 10 กล่าวว่า น้ำเริ่มท่วมตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ไม่มากนัก กระทั่งช่วงเวลา 04.00 น. ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีระดับสูงกว่า 1 เมตร รีบแจ้ง อบต.ด่านชุมพลให้ช่วยเหลือ ยังมีความกังวลว่าหากฝนไม่หยุดตกระดับน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เช่นเดียวกับที่ จ.เพชรบูรณ์ เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก และ อ.หล่มเก่า ล้นทะลักท่วมพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 8 ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 40 หลัง ส่วน อ.หล่มสัก น้ำท่วม ต. ห้วยไร่ ต.สักหลง ต.วัดป่า และเขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว รวม 22 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 500 หลังคาเรือน และบริเวณสี่แยกร่องไผ่ น้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. นอกจากนี้ยังมีรถแบ็กโฮที่ทำพนังกั้นน้ำริมตลิ่งขนย้ายไม่ทันถูกน้ำท่วมมิดทั้งคัน กระแสน้ำยังกัดเซาะพนังกั้นน้ำชั่วคราวจนพัง ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมบ้านท่ามะกล้วย และชุมชนบ้านไร่ ชุมชนท่ากกโพธิ์ ชุมชนวัดทุ่งจันทร์สมุทร เขตเทศบาลเมืองหล่มสัก บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 300 หลังคาเรือน จนเช้าระดับน้ำยังทรง คาดว่าหากไม่มีฝนตกซ้ำน้ำอาจจะลดลงสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน ที่ จ.กาญจนบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง 2-3 วันในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ทำให้น้ำป่าไหลบ่าลงลำห้วยโรคี่ จนเอ่อล้นตลิ่ง กระแสน้ำเชี่ยวกรากและมีสีแดง ไหลผ่านหมู่บ้านสะเนพ่อง หมู่ 1 ต.ไล่โว่ เช่นเดียวกับแม่น้ำซองกาเรียที่ไหลผ่านบริเวณจุดเล่นน้ำซองกาเรีย หมู่ 8 ต.หนองลู น้ำท่วมสูงร้านค้าต้องยกของหนีน้ำป่าชุลมุน ผู้ประกอบการล่องแก่งต้องประกาศงดกิจกรรมล่องแก่งชั่วคราว ซึ่งนายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำบริเวณน้ำตกเกริงกระเวียและน้ำตกไดช่องถ่อง เนื่องจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำหลาก จนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ถ่ายรูป และนั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในร้านสวัสดิการของอุทยานฯขณะเดียวกัน ผลจากน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลให้จังหวัดติดทะเลอ่าวไทยถูกน้ำท่วมไปตามๆกัน โดยเมื่อช่วงสามทุ่มวันที่ 14 ก.ค. เกิดน้ำทะเลหนุนสูงไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ในจังหวัดสมุทรปราการ จุดแรกที่ตลาดปากน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาปากอ่าวไทย น้ำทะเลหนุนไหลท่วมตลาด และถนนสูงราว 30 ซม. ถนนสายหลักอย่างถนนสุขุมวิท ช่วง ต.บางปู มีน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ บางจุดน้ำสูงถึง 30 ซม. รถเล็กผ่านลำบาก ชุมชนริมชายฝั่งย่านบางปูหลายชุมชนถูกน้ำทะเลไหลท่วมบ้าน มีรถยนต์และรถ จยย.จมน้ำหลายคัน ในชุมชนซอยเทศบาลตำบลบางปู 108 และชุมชนซอยเทศบาลตำบลบางปู 128 เขตเทศบาลบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ น้ำท่วมสูง บางจุดน้ำสูงถึงเอว รถยนต์จมน้ำเกือบครึ่งคัน ชาวบ้าน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งนี้น้ำขึ้นสูงมากในรอบปี โดยสูงกว่า 50 ซม. และมาเร็วจนขนข้าวของหนีน้ำไม่ทัน หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมงน้ำลดเข้าสู่ปกติทิ้งไว้แต่ความเสียหายขณะเดียวกัน จากข้อมูลของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ พบว่าในวันที่ 14 ก.ค. ระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุดที่ 3.8 เมตร ในเวลา 20.00 น. และในวันที่ 15 น้ำทะเลจะขึ้นสูงสุดที่ 3.9 เมตร และจะขึ้น สูงสุดไปต่อเนื่องจนถึง 20 ก.ค.ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ผลจากน้ำทะเลหนุนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำบางปะกง เอ่อท่วมบ้านเรือนริมสองฝั่งแม่น้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว ระดับน้ำสูง 30-70 ซม. ทำให้ประชาชนขนย้ายข้าวของไม่ทันทรัพย์สินเสียหายบางส่วน โดยเฉพาะ ต.บางปะกง ต.ท่าข้าม ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง และท่วมถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.47-48 ช่องคู่ขนาน ขาเข้าชลบุรี หมู่ 13 ต.บางปะกง ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. ทำให้การจราจรชะลอตัวและยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะหลบน้ำท่วม ประกอบกับมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนทำให้น้ำลดระดับลงช้าส่วนที่ จ.ชลบุรี บริเวณสะพานใหม่เลียบชายทะเล เขตเทศบาลเมืองชลบุรี หน้าอำเภอเมืองชลบุรี ถนนหน้าศาลารวมใจชล และถนนโดยรอบซึ่งเป็นย่านชุมชนและย่านการค้าของจังหวัด น้ำท่วมสูงกว่า 30-50 ซม. ทำให้รถราสัญจรไปมาลำบาก นายสุพวัน ดีประชา อายุ 55 ปี พ่อค้าเร่ขายลาบ กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำทะเลหนุนแบบนี้จะมีทุกปี ปีละครั้งสองครั้ง ส่วนมากน้ำทะเลจะหนุนในช่วงเช้า นานประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็ลดลงเป็นปกติ ที่ลำบากคือลูกค้าก็ไม่อยากที่จะจอดรถลุยน้ำลงมาซื้อ ทำให้ขายของลำบาก แต่ถ้าวันไหนหนุนสูงระดับน้ำก็ท่วมถึงทางเท้า ทำให้รถสัญจรลำบากการจราจรติดขัด อยากให้ผู้ที่ใช้รถยนต์ขับช้าลง ไม่ให้น้ำกระเด็นไปถูกคนเดินถนน