กระทรวงสาธารณสุขย้ำจุดยืนใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ไม่สนับสนุนใช้ในเด็ก-หญิงตั้งครรภ์- จิตเวช ชี้ผลกระทบในเด็ก กัญชามีผลต่อสมอง ระบบประสาท รวมถึงเตือนห้ามใช้ขณะขับรถ อนาคตอาจบรรจุเป็นข้อกำหนดในการประเมินสมรรถนะของผู้ขับขี่ แนะโรงเรียน ผู้ปกครอง เฝ้าระวังเยาวชนใช้สูบเพื่อสันทนาการ ส่วนร้านอาหารต้องแสดงรายการอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผัด แกง ต้ม หรือผสมในเครื่องดื่ม ต้องแสดงคำเตือนให้แก่ผู้บริโภคที่มีความเสี่ยง เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ขณะเดียวกันเตรียมสถานพยาบาลรองรับภาวะแทรกซ้อน หมอเผยพื้นที่อีสานพบข้อมูลผลข้างเคียงสูง เพราะมีผลิตภัณฑ์มาก ด้าน ปธ.กมธ. ยัน ก.ม.กัญชาไม่เป็น ภัยสังคมเอื้อนายทุนจากกรณีแพทย์และหลายฝ่ายออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้กัญชา กัญชง ไปในทางที่ไม่เหมาะสม หลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. ผลักดันให้มีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่าขอขอบคุณทุกความห่วงใย และรับฟังความเห็นความห่วงใยของทุกฝ่าย ทั้งยืนยันว่าการใช้กัญชาจะต้องเป็นไปเพื่อทางการแพทย์ เพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์สุขภาพเท่านั้น ไม่เห็นด้วยและไม่สนับสนุนการใช้กัญชาไปในทางที่ผิด เชื่อว่าประชาชนทราบดีในการใช้กัญชาในทางที่ถูกต้อง ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประชา สัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงนโยบายของกระทรวง เรื่องการใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยวันที่ 13 มิ.ย. มีประชาชนให้ความสนใจลงผ่านแอปพลิเคชันปลูกกัญแล้ว 751,086 คน และได้ออกใบรับจดแจ้งกัญชา 728,244 ใบ ออกใบรับจดแจ้งกัญชง 22,842 ใบ รวมมีผู้เข้ามาใช้งานในระบบแล้ว 36.1 ล้านครั้ง นายอนุทินกล่าวต่ออีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ...ซึ่งผ่านสภาวาระที่ 1 แล้วนั้น มีการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณา ซึ่งกรรมาธิการฯ มาจากทุกภาคส่วน โดยมีแพทย์ รวมทั้งตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข เชื่อว่าจะรับฟังความห่วงใย ทุกฝ่ายมาพิจารณาและเขียนกฎหมาย ดูแลให้ครอบคลุมข้อห่วงใยต่างๆให้มากที่สุด รวมถึงข้อห่วงใยของแพทย์หลายคนที่ห่วงเรื่องกัญชาส่งผลกระทบต่อเด็ก นอกจากนี้ยังได้ให้กรมแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ การศึกษาติดตามผลกระทบต่อการใช้กัญชาทางการแพทย์วันเดียวกัน ที่กรมการแพทย์ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์มีจุดยืนสนับสนุนให้มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. มอบให้กรมการแพทย์ทบทวนเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งศึกษาวิจัยการใช้กัญชาทางการแพทย์ ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน ยาที่บรรจุในบัญชีหลักแห่งชาติ คือ 1.ยาที่มีสัดส่วน THC ต่อ CBD 1 : 1 สำหรับการรักษาผู้ป่วยระยะประคับประคอง 2.ยารักษาภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากการให้เคมีบำบัด ยืนยันว่ายาทั้ง 2 ตัวนี้ไม่ใช่ยารักษาที่เป็นทางเลือกแรก แต่เนื่องจากใช้ยารักษาที่มีแล้วไม่ได้ผล และ 3.ยา CBD เด่น ที่ใช้รักษาโรคกรณีลมชักในเด็ก และมีระบบติดตามเฝ้าระวัง ส่วนกรณีอื่นที่เกี่ยวกับการแพทย์ เช่น เวชสำอาง สถาบันโรคผิวหนังมีการเอาไปใช้เป็นเวชสำอางอธิบดีกรมการแพทย์กล่าวด้วยว่า ผู้เชี่ยวชาญของกรมการแพทย์มีการศึกษาและแนะนำขอให้ใช้ในกลุ่มที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กเพราะกัญชามีผลต่อสมอง ระบบประสาท โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียนมีผลต่อพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ จึงขอความร่วมมือโรงเรียน ครูอาจารย์ พ่อแม่ ผู้ปกครองทุกภาคส่วน ต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ขณะที่กรมการแพทย์มีระบบในการติดตามเฝ้าระวังการใช้กัญชา ในภาพรวมทั้งผู้ใหญ่และเด็กเพื่อนำมาเป็นข้อมูลการศึกษาต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ขอให้งดใช้ในผู้ป่วยจิตเวช และหญิงตั้งครรภ์ และร่วมกับกรมควบคุมโรคในการติดตามข้อมูลเพื่อพิจารณาการควบคุมการใช้กัญชาขณะขับขี่ ในอนาคตอาจจะมีการบรรจุเป็นข้อกำหนดในการประเมินสมรรถนะของผู้ขับขี่เหมือนกรณีการเป็นโรคลมชักห้ามขับรถ เมื่อมีการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาขอให้งดขับรถ งดใช้เครื่องจักรภายใน 6 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเตรียมบุคลากรและสถานพยาบาลรองรับภาวะแทรกซ้อนและติดตามผลดี ผลเสีย และอาการข้างเคียง ที่พบคือคอแห้ง ใจสั่น นอนไม่หลับ วิตกกังวลด้าน นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมจะมีการดูแลเฝ้าระวัง 2 ส่วน 1.กรณีพิษเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการทางระบบประสาท ระบบหัวใจ และหลอดเลือด อาการที่พบคือความดันโลหิตสูง ใจสั่น ใจเต้นแรง วิงเวียนศีรษะ แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต ยกเว้นไปขับขี่แล้วเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งมีรายงานแล้วในต่างประเทศ ส่วนในไทยยังไม่ได้มีการรวบรวมในส่วนนี้ 2.การเฝ้าระวังการใช้ในครัวเรือนและการเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่พบเป็นการใช้ไม่ถูกวิธี โดยใช้เพื่อการสูบสันทนาการและประสานกับโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ให้เฝ้าระวังเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดนพ.มานัสกล่าวว่า หลังปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดได้มีการประเมินว่าในส่วนของผู้ที่มีความตั้งใจในการใช้ทางการแพทย์นั้นมีความรู้ ความเข้าใจดี แต่ที่น่ากังวลคือกลุ่มที่เอาไปใช้สันทนาการขอยืนยันว่าไม่แนะนำ ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลที่รายงานเข้ามาในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากกัญชาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีผลิตภัณฑ์กัญชาจำนวนมากขณะที่ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ออกประกาศกรมเรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ.2565 โดยสถานประกอบการ ซึ่งรวมถึงตลาด สถานที่จำหน่ายอาหาร สถานที่สะสมอาหาร และการจำหน่ายในที่ หรือทางสาธารณะ ต้องจัดทำข้อความที่แสดงข้อมูลเป็นสถานประกอบกิจการอาหารที่มีการใช้กัญชา แสดงรายการอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาทั้งหมด แสดงข้อมูลปริมาณการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบต่อรายการอาหาร เช่น อาหารทอดใช้ใบกัญชาสด 1-2 ใบสดต่อเมนู ประเภทผัด แกง ต้ม ผสมในเครื่องดื่มใช้ใบกัญชาสด 1 ใบสด ต่อเมนู แสดงคำเตือนรายการอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาให้แก่ผู้บริโภคที่มีความเสี่ยง ด้วยการระบุข้อความ “เด็กและวัยรุ่นช่วงอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา เช่น ขนม อาหารและเครื่องดื่ม สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน “หากมีอาการผิดปกติควรหยุดรับประทานทันที” “ผู้ที่แพ้หรือไวต่อสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydro cannabinol, THC) หรือสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) ควรระวังในการรับประทาน” “อาจทำให้ง่วงซึมได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล” และมีการจัดเก็บใบกัญชาที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ จัดเก็บเป็นสัดส่วน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดเชื้อราหรือเน่าเสียส่วนที่รัฐสภา เวลา 12.15 น. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การประชุมนัดแรกของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ประชุมมีมติเลือกตนเป็นประธาน กมธ. จะประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ทุกวันจันทร์กับวันศุกร์ ยืนยัน กมธ.จะทำกฎหมายให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด เร็วที่สุด และให้ทุกมาตราเป็นไปด้วยความสมบูรณ์รอบคอบที่สุด เปิดพื้นที่รับฟังความเห็นอย่างเต็มที่ เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่ร่างของพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียว แต่เป็นร่างของ กมธ. เป็นร่างกฎหมายที่ทั่วโลกสนใจจับตาอยู่ จะแสดงให้เห็นว่ากฎหมายนี้สังคมปลอดภัย ไม่มีมาตราใดเอื้อประโยชน์นายทุน