ภาพข่าวที่มีผู้หญิงได้รับบาดเจ็บจากรถ จยย.ล้มเพราะถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าขณะขับขี่กลับบ้าน บนถนนสายยะลา-ยะหา ใกล้วัดหน้าถ้ำ หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ หมดสติ รู้สึกตัวอีกทีที่ รพ.ศูนย์ยะลา พบเงินในกระเป๋า 30,000 บาท เตรียมไว้จ่ายค่าห้องเดือนรอมฎอนนี้หายไปด้วยหลังเกิดเหตุมีคนแชร์ภาพคนร้ายพร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุที่มี “กล้องวงจรปิด” จับภาพไว้ได้ พ.ต.ท.พงศ์พันธ์ สุริยะวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยะลา พ.ต.ต.สมภพ บัวเทศ สว.ฯ ปรก.สว.สส.สภ.เมืองยะลา และ ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองยะลา ปูพรมลงพื้นที่เร่งหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จ.ยะลา สั่งให้ พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา และ พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยะลา เข้าไปกำกับคดีนี้อย่างใกล้ชิดและไล่ล่าคนร้าย ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และที่สำคัญผู้เสียหายเป็นผู้หญิง ได้รับบาดเจ็บจนหมดสติผ่านไปเพียง 1 วัน ชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา จับกุม นายอาดัม นามสมมติ อายุ 28 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุได้ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับสารภาพว่า ตกงานหลายเดือน เพิ่งกลับจาก จ.ระยอง มาสมัครงานในเมืองยะลา แต่หางานทำไม่ได้ มาเจอผู้เสียหายขี่รถ จยย.ผ่านมาเห็นว่าน่าจะมีเงินจึงขี่ติดตามไปสบโอกาสกระชากกระเป๋าคนร้ายกระชากกระเป๋าทำให้รถ จยย.ผู้เสียหายล้มได้รับบาดเจ็บ หมดสติ ก่อนลักเอาเงินสดไป 30,000 บาท ตั้งใจจะนำไปซื้อรถจักรยานยนต์มาใช้ ส่วนรถที่นำมาใช้ก่อเหตุเป็นรถของแม่จากเหตุการณ์นี้เห็นได้ว่าคนหลายคนเริ่มตกงานไม่มีรายได้ คิดสั้นมาก่อเหตุ โดยคนร้ายไม่สนใจเหยื่อว่าจะเป็นอย่างไร สมควรที่จะได้รับโทษอย่างรุนแรง เพราะไม่ได้มีอาการสะทกสะท้านกับสิ่งที่ได้ทำลงไปเลยนอกจากจับกุมคนร้ายได้ ผบก.ภ.จ.ยะลา สั่งย้ำนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ร้านค้า ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อต่างๆ ในพื้นที่หรือสถานที่ที่เก็บเงินสดไว้ในร้านหรือไว้กับตัว ให้เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ให้ตำรวจทุกพื้นที่ตรวจตรา มีแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ หากมีเหตุเกิดขึ้น การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดีที่สุด แต่ถ้าเกิดแล้ว ต้องจับให้ได้โดยเร็ว และนำทรัพย์สินคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดคดีนี้ทำให้ได้เห็นว่า ความใส่ใจในปัญหาของชาวบ้านของตำรวจ ช่วยกันติดตามจับกุมคนร้ายพร้อมยึดเงินคืนให้กับผู้เสียหายได้รวดเร็วทันใจ อย่างน้อยทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความอบอุ่นใจว่าตำรวจไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน ยังห่วงใย และยังทุ่มเททำงานให้กับพี่น้องประชาชนเต็มที่ตำรวจทำให้อบอุ่นใจ เป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th