ฝนถล่มภาคใต้น้ำท่วมขังทางเข้า อ.หาดใหญ่ พื้นที่ลุ่มต่ำอ่วมชาวบ้านรีบขนของหนีน้ำ เมืองคอนน้ำล้นตลิ่งทะลักเข้าชุมชน ชุมพรเดือดร้อน 4 อำเภอ ชาวสวนทุเรียนทรุดน้ำป่าซัดผลผลิตเสียหาย เพชรบุรีน้ำไหลเชี่ยวท่วมบ้านเรือนกว่า 60 หลัง ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่นครสวรรค์วางแผนรับน้ำเหนือ ส่วนผู้ว่าฯ กทม.ยันไม่มีน้ำท่วมแล้วสถานการณ์ฝนตกหนักภาคใต้ ส่งผลกระทบน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ จ.สงขลา เกิดฝนตกต่อเนื่องมา 3 วัน ส่งผลกระทบน้ำท่วมถนนพื้นที่ ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า รถสัญจรค่อนข้างลำบากต้องวิ่งชิดเกาะกลาง เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก และเฝ้าระวังระดับน้ำ ตลอดทั้งคืน ส่วนอีกจุดน้ำท่วมขังถนนกาญจนวนิชพื้นที่บ้านคลองลึก หมู่ 3 ต.พะวง อ.เมืองสงขลา น้ำท่วมถนนฝั่งขาเข้า อ.หาดใหญ่ รถสัญจรด้วยความลำบาก นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนบางจุดอยู่ในที่ลุ่มต่ำน้ำทะลักเข้าบ้านแล้ว ต้องรีบขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงส่วนที่ชุมชนท่าช้าง เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 20 หลังคาเรือน ชาวบ้านอยู่ในสภาพติดเกาะต้องใช้เรือพายสัญจรเข้าออกไปธุระ พ.อ.บรรณกร วงษ์สุวรรณ ผบ.นพค.43 สนภ.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของพร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จ.ชุมพร เกิดฝนตกหนักน้ำท่วม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.พะโต๊ะ และ อ.หลังสวน รวม 18 ตำบล 66 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 735 ครัวเรือน 1,641 คน โรงเรียน 1 แห่ง วัด 1 แห่ง และน้ำท่วมถนนสายเอเชีย 41 บริเวณก่อนถึงสี่แยกเขาปีบ อ.ทุ่งตะโก ถนนสายหลักสายรองมีน้ำไหลหลาก นายจเร เนื้อแก้ว อายุ 53 ปี เจ้าของสวนทุเรียนใน อ.ทุ่งตะโก เปิดเผยว่า น้ำป่าเริ่มไหลทะลักเข้าบ้านเรือนตั้งแต่ช่วงเวลาตีสาม ระดับน้ำสูงมิดหัว ชาวบ้านหนีตายขึ้นไปชั้น 2 ส่วนสวนทุเรียนจมน้ำเสียหายหลายไร่ด้านนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร รักษาราชการแทน ผวจ.ชุมพร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน และสั่งการให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด และอำเภอทุกแห่ง ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนให้แก่พื้นที่ประสบภัย พร้อมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน จัดชุดปฏิบัติการเร่งให้ความช่วยเหลือและอพยพประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม และพื้นที่เสี่ยงอย่างเร่งด่วนขณะที่มวลน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนบ้านใหม่ หมู่ 2 ต.บางครก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ระดับน้ำสูงถึงหน้าอก บ้านเรือนเสียหายกว่า 60 หลังคาเรือน ชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายทรัพย์สินตลอดจนสัตว์เลี้ยง ได้ทันต้องแช่อยู่ในน้ำ นายอารีย์ วออ่วม อายุ 66 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.บางครก เปิดเผยว่า อาศัยอยู่ในพื้นที่มากว่า 40 ปี ไม่เคยพบเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก ในปีนี้เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุง รักษาเพชรบุรีปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีอย่างมหาศาล ปริมาณน้ำที่มากเกิน ทำให้ตลิ่งบางจุดแตกน้ำทะลักเข้าท่วมในชุมชน ขณะนี้ทหารมณฑลทหารบกที่ 15 และหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 13 เข้ามาช่วยเหลือเคลื่อนย้ายสิ่งของและทำแนวกั้นน้ำ อยากวอนขอความช่วยเหลือจากส่วนราชการขอถุงยังชีพและอาหารสัตว์ สำหรับแนวทางการป้องกันน้ำท่วมเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก รัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ พร้อมคณะลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาพรวมจากส่วนราชการ จากนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ กับ จ.นครสวรรค์ ถือเป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา และแหล่งน้ำธรรมชาติบึงบอระเพ็ด พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคในช่วงฝนทิ้งช่วงในคราวเดียวกัน ขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ให้มีความคืบหน้า โดยเฉพาะโครงการระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนวัดไทรย์ ให้เสร็จสิ้นทันรองรับสถานการณ์น้ำหลากในปีถัดไปจากนั้น พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะเดินทางไปติดตามการบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาอุทกภัยและการพัฒนาพื้นที่กักเก็บน้ำ บริเวณประตูระบายน้ำขุนลาดบริบาล และไปติดตามความคืบหน้าการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำบึงบอระเพ็ดตามแผนที่กำหนด ทั้งนี้ กำชับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาบริหารจัดการน้ำส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ สามารถทำนาปรังและปลูกพืชฤดูร้อนได้ไปพร้อมกันด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการแจ้งเตือนประชาชนระวังน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ย. อาจ ทำให้เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯหรือไม่ว่า “ไม่มีแล้วไม่มีน้ำท่วมแล้ว”