โครงการพลาสติกชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือใช้ ของ รศ.ดร.แก้วตา แก้วตาทิพย์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ (วิทยาศาสตร์โพลิเมอร์) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเศษวัสดุเหลือทิ้งจากธรรมชาติ ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงแนวคิดลดขยะเป็นศูนย์รศ.ดร.แก้วตา เผยว่า ทีมวิจัยสนใจเรื่องถาดโฟมจากแป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากถาดโฟม จากแป้งมีราคาถูก ไม่เป็นพิษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ ในธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว “แต่ทว่ามีข้อจำกัดในการนำไปใช้งาน คือ สมบัติเชิงกลต่ำ ไม่ทนน้ำ ชื้นง่าย ทีมวิจัยจึงปรับปรุงสมบัติของถาดโฟมแป้งโดยผสมเศษวัสดุเหลือใช้ เช่น ต้นคลุ้ม เปลือกเมล็ดยางพารา ผักตบชวา และเปลือกไข่ นอกจากสามารถตอบโจทย์ข้อจำกัดทุกอย่างได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเศษวัสดุเหลือใช้ในชุมชนและภาคการเกษตรได้ด้วย”รศ.ดร.แก้วตา อธิบายถึงวัตถุดิบตัวแรก “ต้นคลุ้ม” เป็นพืชล้มลุก พบมากทางภาคใต้ ทั้งในสวนยางพาราและป่าเขา โดย เฉพาะในจังหวัดสตูล ภูมิปัญญาชาวบ้าน นำต้นคลุ้มมาลอกเปลือกด้านนอกมาทำเครื่องจักสาน ต่างๆ เพราะเหนียวและแข็ง ทีมวิจัยจึงนำเส้นใยคลุ้มเหลือทิ้งมาล้าง อบแห้ง และปั่นให้เป็นผงเส้นใย ซึ่งสามารถทนความร้อนได้ถึง 302°C และหากนำมาฟอกสีขาวจะ ทนความร้อนได้สูงขึ้นเป็น 358°C นอกจากจะทำให้ได้ถาดโฟมแป้งมันสำปะหลังที่ทนความร้อนแล้ว ยังเป็นอีกช่องทางเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้าน วัตถุดิบตัวต่อมา “เปลือกเมล็ดยางพารา” วัสดุเหลือทิ้งในสวนยาง มีความแข็งแรง ทีมวิจัยจึงนำมาตัด ปั่น แยกให้มีขนาดเล็กเท่าๆกัน แล้วนำมาบดเป็นผงแห้ง ทำหน้าที่เป็นสารตัวเติมสำหรับถาดโฟมแป้งมันสำปะหลัง มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับถาดโฟมจากแป้งเดิม และไม่มีความเป็นพิษสามารถนำไปเป็นภาชนะใส่อาหารได้ส่วน “เปลือกไข่และเปลือกกุ้ง” แหล่งแคลเซียมจากธรรมชาติ (bio-calcium) นำมาแปรรูปเป็นผง ทำหน้าที่เป็นสารตัวเติมผสมกับถาดโฟมแป้งมันสำปะหลัง เพื่อปรับปรุงค่าความต้านทานต่อแรงกระแทก ทำให้ตัวถาดโฟมยืดหยุ่นมากขึ้น ใช้งานได้หลากหลายขึ้นและโจทย์ท้าทายที่สุด คือ การทนน้ำ เพราะถาดโฟมแป้งมันสำปะหลังมักจะมีปัญหาน้ำซึม ไม่ทนต่อความชื้น ทีมวิจัยทำผักตบชวาให้เป็นผง นำมาผสมเป็นสารตัวเติม ช่วยเสริมจุดเด่นด้านการทนน้ำ ทำให้ถาดโฟมแป้งมันสำปะหลังสามารถรักษารูปทรงได้ดีเมื่อสัมผัสกับน้ำ สามารถนำมาบรรจุผลไม้ตัดแต่งที่มีน้ำเยอะได้เป็นอย่างดี.