อภัยโทษวันพ่อ-วันชาติ ปล่อยนักโทษทั่วประเทศ 3 หมื่นคน แต่ต้องเข้าอบรมโครงการฝึกปฏิบัติการเกษตรทฤษฎีใหม่ “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง” เป็นเวลา 15 วัน ทุกคน รุ่นแรกเริ่ม 12 ธ.ค.นี้ ส่วนอีก 2 แสนได้รับอานิสงส์ลดโทษตามสัดส่วน มีผลวันที่ 5 ธ.ค. กลุ่มบิ๊กเนม เต้น-ณัฐวุฒิ เฮได้ปล่อยตัว “สรยุทธ” นักเล่าข่าวชื่อดังลดโทษแล้วเหลือไม่มาก น่าจะได้รับการปล่อยตัวไม่เกิน มี.ค.64 ส่วน “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ต้องโทษตามคำพิพากษาคดีข้าวจีทูจี 48 ปี ได้ลดโทษในฐานะนักโทษชั้นดี ส่วนนักโทษที่ทำความผิดซ้ำ ฉ้อโกงประชาชน ยาเสพติดรายใหญ่ และความผิดเกี่ยวกับเพศไม่เข้าข่ายได้ลดโทษที่กรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค.63 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหา วชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั่วประเทศที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ และปล่อยตัวตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ.2563 เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับมาประพฤติตนเป็นพลเมืองดี ผู้ต้องโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ต้องโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ได้แก่ ผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคม หรือทำงานสาธารณประโยชน์ แทนค่าปรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ และผู้ต้องโทษที่เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี รวมถึงผู้พิการ ผู้ที่เป็นโรคร้ายแรง และชราภาพ เป็นต้น และกลุ่มผู้ต้องโทษที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษ ได้แก่ ผู้ต้องราชทัณฑ์นอกเหนือจากกลุ่มแรก จะได้รับการลดโทษในอัตราส่วนมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับชั้นและฐานความผิดอธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวอีกว่า ส่วนของผู้ต้องโทษที่ไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 ฉบับนี้ ประกอบด้วยผู้กระทำความผิดซ้ำและไม่ใช่นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม นักโทษเด็ดขาดชั้นต้องปรับปรุงหรือชั้นปรับปรุงมาก นักโทษเด็ดขาดคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา นักโทษเด็ดขาดคดีความผิดฉ้อโกงประชาชน และผู้กระทำความผิดคดียาเสพติดรายใหญ่ที่เพิ่งรับโทษจำคุกภายหลังพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 บังคับใช้ และผู้ต้องโทษที่ถูกศาลลงโทษประหารชีวิตและเคยได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.63 เป็นต้นไป ระบุให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่พระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้“ระหว่างที่ผู้ต้องราชทัณฑ์ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำหรือทัณฑสถานนั้น กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนองค์กรต่างๆ ร่วมกันเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งการให้การศึกษา อบรมพัฒนาจิตใจ การฝึกทักษะอาชีพ การแนะแนวการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยในโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” เป็นการฝึกปฏิบัติการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กให้ผู้ต้องขัง เพื่อให้มีความรู้ติดตัวนำไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ อีกทั้งยังร่วมกับเครือข่ายภาคสังคม ติดตาม ดูแลและช่วยเหลือผู้พ้นโทษ หวังว่าสังคมตลอดจน ผู้ประกอบการ หรือห้างร้านบริษัทต่างๆจะให้โอกาสผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ร่วมให้กำลังใจและเปิดใจยอมรับผู้ก้าวพลาด ให้ได้กลับตัวเป็นคนดีของสังคมอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เขาเหล่านั้นหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ” นายอายุตม์กล่าวรายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2563 จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำทั่วประเทศประมาณ 30,000 คน ตามมาตรา 6 และยังมีนักโทษเด็ดขาดที่เข้าหลักเกณฑ์ได้ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว อีกกว่า 200,000 คน สำหรับกลุ่มผู้ต้องขังบิ๊กเนมซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากกระทำความผิดตามบัญชีแนบท้าย แต่ได้รับการลดวันต้องโทษตามสัดส่วน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษปล่อยตัวก่อนครบกำหนดโทษ ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 8 เดือน คดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสา เทเวศร์ เมื่อปี 2550 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.63 จะได้รับการปล่อยตัวนอกจากนี้ยังมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี 24 เดือน เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา จะได้ลดโทษตามสัดส่วน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ส.ค. นายสรยุทธได้รับการลดโทษมาแล้ว คาดว่าเดือน มี.ค.64 จะครบกำหนดเวลาถูกจำคุก รวมถึงนายสำเริง ประจำเรือ นายสิงห์ทอง บัวชุม ถูกพิพากษาจำคุกคดีล้มประชุมสุดยอดอาเซียน 4 ปี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 48 ปี คดีข้าวจีทูจี จะได้รับการลดโทษตามสัดส่วน นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวต้องเข้าอบรมโครงการโคกหนองนาโมเดลเป็นเวลา 15 วัน คาดว่าเริ่มอบรมรุ่นแรกวันที่ 12 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ดีปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาดที่ควบคุมอยู่ประมาณ รวม 247,557 คน จากผู้ต้องขังทั้งหมด 344,161 คน จากข้อมูลวันที่ 1 ธ.ค.63