แนวคิดการดำเนินงานการขุดคลองไทย (คลองกระ) เพื่อเชื่อมทะเลอ่าวไทยกับทะเลอันดามันของไทย มีมานานตั้งแต่รัชสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อให้ติดต่อค้าขายกับชาติยุโรปได้แนวคิดนี้ยังคงสืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัยจนตราบเท่าปัจจุบันนี้ ซึ่งมีแนวคลองไทยทั้ง 2A, 5A, 7A และ 9Aต่อมาในปี พ.ศ.2544 คณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ได้รื้อฟื้นและ ศึกษาเรื่องการขุดคลองไทยขึ้นใหม่อีกครั้ง และได้ให้ความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการขุดคลองไทยตามแนวเส้นทาง 9A เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2548 พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ นำคณะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นการขุดคลองไทย แนว 9A จากประชาชนที่ห้องประชุมโรงเรียนพนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญในการขุดคลอง.โดยเริ่มต้นขุดจากฝั่งทะเลอันดามันที่ อ.สิเกา ผ่าน อ.วังวิเศษ-อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา จ.ตรัง ผ่านไปยัง อ.ทุ่งสง-อ.ชะอวด-อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พาดผ่าน อ.ป่าพะยอม-อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และออกทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ อ.ระโนด จ.สงขลา มีความยาว 135 กม. กว้าง 400 ม. และความลึก 30 ม.ทำให้ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ให้ความสนใจ ได้ร่วมจัดตั้ง สมาคมคลองไทย เพื่อศึกษาถึงผลกระทบพร้อมรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เสนอไปยังรัฐบาล กระทั่งมีการแต่งตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยและการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ขึ้น พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ นำคณะรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนพื้นที่รอยต่อ ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ และ ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง.ผลการศึกษาพบว่าการขุดคลองไทยจะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย เกิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ของภูมิภาคและโลก ประหยัดพลังงาน เวลา ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศพล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.พรรคพลังชาติไทย หนึ่งในผู้ร่วมผลักดันการขุดคลองไทย เปิดเผยว่า โครงการขุดคลองไทยแนว 9A จะเกิดขึ้นแน่นอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาศึกษาของกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อสรุปผลส่งให้รัฐบาล ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการทางรัฐบาลจะให้การดูแลช่วยเหลือการขุดคลองไทย จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยไม่น้อยกว่าปีละ 4 ล้านล้านบาท ส่วนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้จะเกิดขึ้นทันที เมื่อรัฐบาลได้อนุมัติให้มีการขุดคลองไทย ซึ่งต่างประเทศพร้อมจะเข้ามาร่วมลงทุน ประเทศไทย จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ นายณรงค์ ขุ้มทอง หัวหน้ากลุ่มอำนวยการคลองไทย.“ผมจะนำตัวแทนของ ส.ส.พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน เข้าพบกับนายกฯ เพื่อขอความชัดเจนในการขุดคลองไทยและระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร หากรัฐบาลไม่ดำเนินงาน การขุดคลองไทย ส.ส.ทั้ง 500 คน ในสภาฯก็จะร่วมกันยกร่างกฎหมายพิเศษขึ้น เพื่อขุดคลองไทยโดยเฉพาะ” พล.ต.ทรงกลด กล่าวพล.ต.ทรงกลด กล่าวอีกว่า ไม่มีใครจะมายับยั้งโครงการนี้ได้ จะนำเอาโครงการ EEC มาเป็นแบบอย่าง ทำให้การดำเนินงานง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น โครงการนี้จะทำให้บางประเทศสูญเสียผลประโยชน์ด้าน นายณรงค์ ขุ้มทอง หน.กลุ่มกลุ่มอำนวยการคลองไทย เปิดเผยว่า คลองไทยจะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ของโลกที่ไปเชื่อมต่อกับโครงการ BRI ของจีน และ Indo pacific ของอเมริกา มีส่วนสำคัญต่อระบบการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่มนุษย์ร่วมกันสร้าง ภาพแสดงเส้นทางการขุดคลองไทยแนว 9 A เริ่มต้นขุดจากฝั่งทะเลอันดามันที่ อ.สิเกา จ.ตรัง ผ่านจังหวัดต่างๆ ไปออกทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ อ.ระโนด จ.สงขลา.สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และจะนำรายได้เข้าประเทศไทยมากมาย รวมทั้งแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างสันติวิธี เพราะคลองไทยจะสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเจริญไปทั่วทั้งภาคใต้คลองไทยจะเป็นแหล่งธุรกิจ แหล่งอุตสาหกรรม มีคลังสินค้าเป็นศูนย์กลางกระจายการขนส่ง และมีคลังเก็บรักษาสินค้าจากประเทศทั่วโลก เป็นศูนย์กลางธนาคารธุรกิจการค้า การเดินเรือระหว่างประเทศเป็นศูนย์รวมภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรผลิตอาหารสำเร็จรูปของไทยเพื่อการส่งออก เป็นศูนย์จำหน่ายให้บริการอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ ให้กับเรือต่างๆ สร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หนึ่งในผู้ผลักดันให้เกิดโครงการขุดคลองไทยเชื่อมอันดามัน-อ่าวไทย.จะเป็นเส้นทางขนส่งที่สำคัญทั้งในยามปกติและยามสงครามของประเทศ เรือประมงไทยทั้งฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทยซึ่งมีอยู่กว่า 45,000 ลำ สามารถไป-มา ได้สะดวกรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลผลิตรวมกันไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท/ปี พื้นที่ที่แนวคลองไทยตัดผ่านจะได้รับประโยชน์จากความเจริญประเทศไทย จะมีอำนาจต่อรอง ถ่วงดุลอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และทางทหาร ระหว่างประเทศมหาอำนาจของโลก เพราะศักยภาพของ คลองไทย จะเป็นคลองเดินเรือหลักที่สำคัญของโลกสามารถให้เรือผ่าน 300-350 ลำ/วัน และรองรับเรือใหญ่ขนาด 350,000-500,000 ตันได้ จะกลายเป็นหัวใจหลักของการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปตะวันออกไกล (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) การขนส่งสินค้าที่ท่าเรือ Tanyong Palapat port มาเลเซีย หากคลองไทยเกิดขึ้นเรือสินค้าจะย้ายมาใช้ที่ไทย.“ที่สำคัญไทยจะมีต้นทุนการผลิตน้ำมันถูกกว่าประเทศสิงคโปร์ เพราะระยะทางการขนส่งน้ำมันใกล้กว่า ไม่ต้องอ้อมไปผ่านถึงประเทศสิงคโปร์อีกต่อไป” นายณรงค์ กล่าวย้ำดังนั้นโครงการคลองไทยถือเป็นหัวใจของชาติ เป็นอีกความหวังของยุทธศาสตร์การต่อสู้เอาชนะความยากจน สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของชาวไทยทั่วประเทศ. คณะ กมธ.และคณะอนุ กมธ. ไปตรวจสอบการขนส่งสินค้าทางทะเล ที่ทะเลอันดามัน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่. พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรมฯ.สุธรรม คงเพชร