นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผอ.สำนักการโยธา กทม. กล่าวกรณีมีการวิจารณ์ในสังคมออนไลน์ถึงการล้อมย้ายต้นไม้ใหญ่บริเวณถนนหน้าพระลานต่อเนื่องไปถึงท่าช้างวังหลวง เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช เกรงจะทำให้ต้นไม้ตาย ว่าโครงการอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมพระบรมมหาราชวัง ขณะเดียวกันได้มีการขุดค้นทางโบราณคดีโดย นักโบราณคดี สถาปนิก วิศวกร เพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีในพื้นที่ โดยจะนำข้อมูลการขุดค้นทางโบราณคดีที่พบมาจัดแสดงในอุโมงค์ฯเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่อีกด้วยนายชาตรี วัฒนเขจร ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว กทม.ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ต้นมะขาม บริเวณสวนหย่อมตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรีและในสนามหลวง จำนวน 44 ต้น ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดถนนหน้าพระลาน จึงมีความจำเป็นต้องขุดล้อมออกจากพื้นที่เพื่อนำไปอนุบาลให้มีรากและทรงพุ่มที่สมบูรณ์แข็งแรง ก่อนนำกลับมาปลูกบริเวณเดิมเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถปลูกได้ แต่หากไม่สามารถปลูกในพื้นที่เดิมได้ทั้งหมด จะนำไปปลูกทดแทนในพื้นที่สนามหลวงและบริเวณสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ดำเนินการโดยผู้ที่มีความชำนาญในการขุดล้อม ขนย้าย และอนุบาลต้นไม้ใหญ่ และมีเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อมร่วมดูแล กำกับ และติดตามระหว่างนำไป อนุบาลที่จังหวัดสระบุรี จนกว่าจะนำกลับมาปลูกอีกครั้งเมื่อการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแล้วเสร็จด้านนายสุรเดช อำนวยสาร ผอ.เขตพระนคร กล่าวว่า ต้นไม้ที่ล้อมย้าย ประกอบด้วย ต้นลีลาวดี 29 ต้น และต้นปีบ 5 ต้น ทั้งนี้ ต้นลีลาวดีจะนำไปปลูกที่สวนสมเด็จพระปกเกล้าบริเวณเชิงสะพานพระปกเกล้า ทั้ง 29 ต้น ส่วนต้นปีบ ได้นำไปพักไว้ในพื้นที่กองทัพเรือ.