เหมือน MRT เดิมเพิ่มเติมที่ปลอดภัยระหว่างวันที่ 3–8 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้นำคณะสื่อมวลชนจากประเทศไทยบินลัดฟ้าไปดูความคืบหน้าขบวนรถไฟฟ้าที่ BEM ได้จัดซื้อที่บริษัท ซีเมนส์ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรียโอกาสนี้ “รายงานวันจันทร์” เป็น 1 ในคณะสื่อมวลชนได้ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ และได้พูดคุยกับ รองกรรมการผู้จัดการสายปฏิบัติการระบบราง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) “วิทูร หทัยรัตนา” ถึงข้อมูลขบวนรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะนำมาใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิม (MRT) และส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-หลักสอง รวมทั้งส่วนต่อขยาย เตาปูน-ท่าพระที่กำลังเดินรถในเร็วๆนี้--------------------- ถาม-ขบวนรถไฟฟ้าที่จัดซื้อมีจำนวนเท่าไหร่และเริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อใดวิทูร – การจัดซื้อรถไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2560 จำนวนทั้งสิ้น 35 ขบวน โดยส่วนแรกได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อนำมาใช้ในการเดินรถ 1 สถานี จากสถานีบางซื่อไปสถานีเตาปูน ที่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน–บางใหญ่ ทำให้การเดินทางระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วงกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสะดวกขึ้น จากเดิมที่ต้องจัดรถเมล์ ขสมก.และรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย รฟท.มาเชื่อมต่อ ซึ่งในส่วนนี้บริษัทใช้เวลาเพียง 5 เดือนก็นำรถมาเปิดให้บริการจากนั้นอีก 2 ปี ขบวนรถรุ่นใหม่ได้ทยอยแล้วเสร็จและถูกนำส่งไปยังประเทศไทยเรื่อยๆล่าสุดรวม 18 ขบวน ในจำนวนนี้ BEM ได้นำมาวิ่งรับส่งในเส้นทางเดิมและเส้นทางต่อขยาย หัวลำโพง-หลักสองแล้ว 16 ขบวน อีก 2 ขบวนอยู่ระหว่างการทดสอบความพร้อมของขบวนรถ โดยตามกำหนดการแล้ว ขบวนรถรุ่นใหม่ทั้ง 35 ขบวนจะนำส่งประเทศไทยจนครบในเดือนมีนาคม 2563 เพื่อให้ทันกำหนดเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการของส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-ท่าพระ ถาม-ขบวนรถรุ่นใหม่มีความแตกต่างจากรถรุ่นเดิมหรือไม่อย่างไรวิทูร - ขบวนรถรุ่นใหม่มีมาตรฐานและประสิทธิภาพเช่นเดียวกับรุ่นเดิม แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆสำหรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เช่น มีป้ายไฟสัญญาณแสดงตำแหน่งสถานีต่อไปที่รถกำลังเดินทางไป จากเดิมที่เป็นเพียงป้ายข้อความธรรมดา มีราวจับเหนือศีรษะมากขึ้น รวมทั้งเสาจับได้เพิ่มที่จับตรงกลางเสา ขณะเดียวกันได้เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยกับผู้โดยสารโดยติดตั้งกล้องซีซีทีวีในขบวนรถ ทำให้พนักงานขับรถสามารถสังเกตความเคลื่อนไหวในขบวนรถได้ตลอดเวลา เป็นต้น ทั้งนี้ ภายหลังรถรุ่นใหม่มาครบ ทางบริษัทจะนำรถรุ่นเดิม (19 ขบวน) ทยอยนำมาอัปเกรดปรับปรุงและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้เทียบเท่ารถรุ่นใหม่ถาม-หากมีรถรุ่นใหม่มาครบจำนวน จะทำให้ MRT เดินรถได้ถี่ขึ้นหรือไม่อย่างไรวิทูร - ปัจจุบัน MRT มีความถี่ในการเดินรถ 3.25 นาที/ขบวน แต่เนื่องจากเส้นทางเดินรถมีการเปิดระยะทางไกลขึ้น เช่น จากหัวลำโพงไปหลักสอง และจากเตาปูนไปท่าพระ ทำให้ความถี่ในการเดินรถจะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก นอกจากนี้ จากสถิติการใช้บริการของผู้โดยสารพบว่า ช่วงที่มีผู้โดยสารหนาแน่นมักจะเป็นช่วงเร่งด่วนเช้าในเส้นทางกลางเมืองตั้งแต่หมอชิตถึงสุขุมวิท ดังนั้นบริษัทจะจัดรถมาให้บริการเสริมให้สอดคล้องกับช่วงเวลาดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ความหนาแน่นของผู้โดยสารในช่วงดังกล่าวลดน้อยลงถาม-ค่าโดยสารจะมีการปรับขึ้นหรือไม่อย่างไร และคาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นมากน้อยหรือไม่วิทูร – ค่าโดยสารจะยังเท่าเดิม 16–42 บาท แม้ขยายเส้นทางไกลขึ้นและมีรถใหม่มาวิ่งรับส่ง อย่างไรก็ตาม ตามสัญญาแล้วค่าโดยสารจะมีการปรับทุก 2 ปี ตามดัชนีผู้บริโภค แต่ที่ผ่านมาการปรับค่าโดยสารมักถูกรัฐขอให้เลื่อนกำหนดไปก่อน ขณะที่จำนวนผู้โดยสาร คาดว่าภายหลังการเปิดส่วนต่อขยายทั้งสองส่วนภายในปีนี้ ปริมาณผู้โดยสารจะเท่ากับ 3.5 แสน–4 แสนต่อวัน.