ปัจจุบันนักโทษในเรือนจำทั่วประเทศมีสภาพความเป็นอยู่แออัด แม้ว่า “กรมราชทัณฑ์” จะได้ขยายเรือนจำ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการควบคุมจำนวนผู้ต้องขังที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันเช่นเดียวกับ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่เลขที่ 78 ถนนดอนนก ต.ตลาด อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ก่อสร้างบนเนื้อที่ 17 ไร่เศษ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2497 รองรับผู้ต้องขังได้จำนวน 1,500 คน แต่ปัจจุบันมีนักโทษมากถึง 5,000 คน ทำให้เกิดความแออัดของผู้ต้องขังภายในเรือนจำ เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเรือนจำไร้กำแพง ฝึกผู้ต้องขังเพื่อให้เตรียมความพร้อมกลับไปใช้ชีวิตเป็นคนดีของสังคม.ด้วยเหตุนี้ เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน จึงถูกสร้างขึ้นมาในปี พ.ศ.2540 เพื่อรองรับและระบายความแออัดผู้ต้องขังจาก เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี โดยสร้างบนที่ดินสาธารณประโยชน์ “ป่าทุ่งเขน” หมู่ 3 ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่จำนวน 413 ไร่เศษพื้นที่ส่วนหนึ่งจำนวน 108 ไร่ ถูกกันออกไปเพื่อสร้างเป็นอาคารเรือนนอนควบคุมนักโทษ มีกำหนดแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2564 ที่เหลือถูกจัดให้เป็น “เรือนจำไร้กำแพง” บริเวณด้านหน้าสะพานพุทธ มุมธรรมะ ภายในเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน ที่เตรียมขยายเป็นลานธรรมให้ผู้ต้องขังและผู้ที่จะมาศึกษาดูงานในอนาคต.ตามพระราชดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่ทรงเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมที่แตกแขนงออกไป มิใช่อยู่เพียงมิติของกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงมิติทางสังคม การศึกษา สาธารณสุข ในการนำมาบูรณาการร่วมกันทรงมีพระราชดำริให้เรือนจำเปิดพื้นที่เชื่อมต่อสังคม นอกจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ต้องขังขณะอยู่ในเรือนจำแล้ว ยังทรงให้นำเรื่องการพัฒนาจิตใจมาใช้กับผู้ต้องขัง เพื่อสร้างความมั่นคงทางใจอย่างยั่งยืน รวมทั้งนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการพัฒนาทางเลือกมาปรับใช้กับผู้ต้องขังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นายต่อศักดิ์ แสงทั่ว หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน นำ นายสุทธิศักดิ์ ร่าหมาน อดีต ผบ.เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ชมผลฟักทองภายในแปลงผัก.การก่อสร้าง เรือนจำไร้กำแพง แห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก นายสุทธิศักดิ์ ร่าหมาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างดีเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ได้พัฒนาพื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์ทุ่งเขนเป็น เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขนใช้เป็นพื้นที่รองรับผู้ต้องขัง โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ผู้ต้องขังฝึกวิชาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์ต่างๆ เพื่อนำวิชาชีพที่ได้ร่ำเรียนกลับไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ.รูปแบบของเรือนจำถูกสร้างขึ้น โดยไม่มีกำแพงกั้นสูงเหมือนเรือนจำทั่วไป สร้างเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ไม่มีจุดประสงค์เพื่อการหลบหนี ปัจจุบันมี นายต่อศักดิ์ แสงทั่ว เป็นหัวหน้ามีนักโทษในการดูแลอยู่จำนวน 80 คนพื้นที่ภายในเรือนจำถูกจัดแบ่งตามโครงการต่างๆในการฝึกวิชาชีพให้ผู้ต้องขัง มีทั้งปลูกผักสวนครัว ประเภทผักหน้าดิน และยืนต้นระยะสั้น เช่น ผักบุ้ง มะละกอ กระเจี๊ยบ ข้าวโพด ฟักทอง บวบ ตะไคร้ เป็นต้น นายต่อศักดิ์ แสงทั่ว หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน.ส่วนภายในสวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่จำนวน 100 ไร่ จัดให้มีการเลี้ยงสุกรพันธุ์ สุกรพื้นเมือง เป็ดเทศ ไก่พื้นบ้าน โดยได้นำผลิตผลส่งโรงครัวเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี และบางส่วนขายให้พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ รวมถึงลูกสุกร และพันธุ์สัตว์ต่างๆที่ขยายพันธุ์ได้ขายให้เกษตรกรที่สนใจนอกจากการฝึกวิชาชีพด้านการเกษตร เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขนยัง มุ่งเน้นตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งในส่วนของการผลิตปุ๋ยหมัก การผลิตน้ำหมักชีวภาพ รวมถึงการฝึกอาชีพอื่นๆในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ฝึกวิชาช่างไม้ ทำเฟอร์นิเจอร์ ผลิตไม้กวาดก้านมะพร้าว โดยมีการจัดแบ่งนักโทษเป็นกลุ่ม ในการดูแลแต่ละงานตามที่ถนัด และมีการแบ่งปันผลกำไรให้นักโทษด้วย หมูป่าที่ทางเรือนจำฯให้ผู้ต้องขังได้ฝึกวิชาชีพเลี้ยงและขยายพันธุ์ขายเกษตรกรที่สนใจ.นายต่อศักดิ์ แสงทั่ว หัวหน้าเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่จะได้รับการคัดเลือกให้เข้าฝึกวิชาชีพที่เรือนจำชั่วคราวทุ่งเขนนั้น จะต้องเป็นผู้ต้องขังที่เหลือโทษไม่เกิน 5 ปี และเป็นนักโทษที่ได้รับโทษเป็นครั้งแรกหลังจากผู้ต้องขังผ่านการประเมินสภาพ จิตใจจากคณะกรรมการตามขั้นตอน จะถูกส่งมายังเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน และประจำงานวิชาชีพต่างๆที่ถนัดจนกว่าจะพ้นโทษเมื่อพ้นโทษออกไปแล้วก็จะได้รับทุนจากกองทุน นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ได้บริจาคผ่าน กรมราชทัณฑ์ รายละ 30,000 บาท และจากการประเมินติดตามผล อดีตผู้ต้องขังที่ผ่านการฝึกและเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ สามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ และไม่กลับมาต้องโทษซ้ำร้อยเปอร์เซ็นต์ ไก่ เป็ด และห่าน ที่ผู้ต้องขังเลี้ยงไว้บริเวณบ่อปลาภายในเรือนจำชั่วคราวทุ่งเขน.นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของ เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถคืนคนดีสู่สังคมได้อย่างตั้งใจ ปัจจุบัน เรือนชั่วคราวทุ่งเขน ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมและทัศนศึกษาดูงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และกำลังเตรียมพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตร และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในอนาคตโดยทางเรือนจำได้แบ่งพื้นที่จำนวน 3 ไร่เศษ ทำโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืช “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผู้ต้องขังดูแล นำผลผลิตออกขายสร้างรายได้.สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 5 สายพันธุ์ และมีสายพันธุ์ท้องถิ่น สายพันธุ์เสือสุราษฎร์ ที่เป็นหนึ่งเดียวในโลก รวมอยู่ด้วยขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ได้เข้าเพาะพันธุ์เนื้อเยื้อ ขยายพันธุ์ให้ เพื่อเตรียมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ประชาชนต่อไป.อภิชญาฎา เพชรรัตน์