คำกล่าวที่ว่า เกิดเป็นคนไทย สมัยนี้แฝงไปด้วยพิษภัยรายรอบปากท้อง ดูจะไม่เกินจริง ดูอย่างเคสล่าสุดเพจดังออกมาแฉพร้อมกับย้ำเตือนถึงเภทภัยลีลาใหม่“ยาทัมใจ แช่ปลาหมึก”ไม่กี่วันก่อน “เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว” อีกหนึ่งเพจชื่อดัง ได้โพสต์ไว้ในหน้าเพจของตัวเอง“...ยาทัมใจ หรือแอสไพรินยี่ห้ออื่นก็เหมือนกัน เป็นยารักษาโรค ไม่ใช่ขนม...อย่าได้ซี้ซั้วเอาไปผสมกับโน่นนี่เลย...แอดมินเพจ...ขอร้อง!!!”เรื่องของเรื่องนี้มีอยู่ว่า “เพจเคมีฟิสิกส์ฯ” ซึ่งทางแอดมิน หรือผู้บริหารและดูแลเพจ น่าจะเป็นผู้ซึ่งมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี ได้ระบุถึง มิติใหม่ของยาทัมใจ เมื่อมีพ่อค้าหัวใสบางคน ซื้อไปใช้แช่ปลาหมึก ให้เต่งตึงข้อความในโพสต์ระบุว่า “จากโพสต์ของ เจ้าของโพสต์ที่เป็นเภสัชกร (ซึ่งแอดได้ขออนุญาตเป็นการส่วนตัวแล้ว) ที่บอกว่า มีคนซื้อยาทัมใจ ไปแช่ปลาหมึกเพื่อให้เด้งนั้น ปกติแล้วเวลาพ่อค้าซื้อปลาหมึกแช่แข็งมา มักจะมีลักษณะเหี่ยว เนื้ออ่อนยวบ ไม่ได้น้ำหนักและหน้าตาดูไม่น่ากิน ดังนั้นเหล่าพ่อค้า จึงมักจะนำปลาหมึกมาแกว่งในน้ำแข็ง ผสมกับเกลือบ้าง หรือโซดาบ้าง อะไรงี้...ซึ่งส่วนใหญ่พวกนี้จะทำให้เกิดการ salting in จากการออสโมซิส (osmosis) หรือซึมซาบของน้ำผสมเกลือ หรือผสมโซดา เข้าไปทำให้เนื้อปลาหมึกเต่งตึง ดูขาวเหมือนใหม่”แต่เดี๋ยว!!! ใช้ “ทัมใจ”...เนี่ยนะทางแอดมินเพจอธิบายเพิ่มเติมว่า ปกติแล้ว ยาทัมใจ ก็คือ ยาแอสไพริน (aspirin) ที่มีชื่อทางเคมีว่า acetylsalicylic acid จัดอยู่ในกลุ่ม NSAIDs (nonsteroidal anti-inflammatory drugs) มีสรรพคุณใช้เป็นยาระงับปวด ลดไข้ แก้อักเสบ แถมยังมีฤทธิ์ ต้านเกล็ดเลือด อีกด้วยซึ่งแน่นอนว่า “ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่แพ้ยาในกลุ่ม NSAIDs”ดังนั้น พฤติกรรมของพ่อค้าที่นำเอายาทัมใจ หรือแอสไพรินยี่ห้ออื่นไปผสมเพื่อแช่ปลาหมึกนี่ เรียกว่า เป็นฆาตกร สำหรับผู้ที่แพ้แอสไพรินได้อย่างเลือดเย็นเลยทีเดียว!!!เพราะแอสไพรินนั้น เป็นกรดที่มีขนาดโมเลกุลค่อนข้างใหญ่ และมีสัมพรรคภาพ (affinity) กับโปรตีนได้ดี จึงทำให้ล้างออกยากมากซึ่งการจะแช่ปลาหมึกให้เด้งสามารถใช้น้ำเกลือแค่ประมาณ 5% (แต่มันก็เค็มอ่ะเนอะ) หรือไม่ก็แช่ด้วยโซดา (ซึ่งก็แพงไปอีก) จะปลอดภัยกว่านะครับแต่ แอสไพริน นั้น มีองค์ประกอบของ acetylsalicylic acid ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพ้ได้ แอดมินฯของเพจนี้ ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า จริงๆแล้วยังมีของรอบตัวคนไทยเราที่มีอนุพันธุ์ของ กรดซาลิไซลิก ตัวอื่น ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้กับผู้ที่แพ้ NSAIDs โดยออกฤทธิ์เดียวกับแอสไพริน ที่อยู่ใกล้ตัวจนเราคาดไม่ถึงซึ่งตัวที่มีฤทธิ์สำคัญก่อให้เกิดอาการแพ้นั้น ก็คือ Salicylic acid นั่นเองตัวแรกที่ต้องระวัง ก็คือ น้ำมันมวย ยาหม่อง หรือ ครีมแก้เคล็ดขัดยอก บางยี่ห้อที่มีส่วนผสมของ น้ำมันระกำ (wintergreen oil) ซึ่งมีองค์ประกอบหลักของ “เมทิลซาลิไซเลต” (methyl salicylate) ที่สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี และยังถูกเมตาบอไลต์ เป็นกรดซาลิไซลิกที่สามารถสะสมในกระแสเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่แพ้ NSAIDs เป็นอย่างมาก“นอกจากยานวดในกลุ่มของน้ำมันระกำแล้ว ยังมียานวดสูตรที่มี พวก ไดโคลฟิแนก (Diclofenac) หรือ ไพโรซิแคม (Piroxycam) ที่เป็น NSAIDs ตรงๆผสมอยู่ด้วย และเช่นกันว่ามันก็เป็นอันตรายต่อผู้ที่แพ้ NSAIDs”อีกกลุ่ม ก็คือ ขี้ผึ้งนวดเท้า แก้หนังแข็งด้าน ขี้ผึ้งฆ่าเชื้อราสารพัดเบอร์ แปะหูด เจลล้างหน้า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มี BHA บางยี่ห้อ ซึ่งมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก บางทีก็เรียกให้เป็นศัพท์หรูว่า BHA (Beta hydroxy acid) ที่ใช้ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว (exfoliation) ให้นุ่มเนียน ลดการเกิดสิวเสี้ยน ลอกผิวหนังออก (ถ้ามีความเข้มข้นสูง) เหล่านี้ก็ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่แพ้ NSAIDs ได้ทั้งสิ้น“ส่วนคนที่ไม่ได้แพ้ NSAIDs นั้น ก็สามารถใช้ได้ตามปกตินะครับ อย่าเป็นกังวลไป” กลับมาที่ประเด็น การใช้ยาทัมใจผสมกับอะไรต่อมิอะไร ตามความเชื่อที่นัวเนียไปหมด อาจเป็นเพราะ “ยาทัมใจ” เป็นแอสไพรินที่อยู่คู่กับคนไทยและสังคมไทยมาช้านาน จนกลายเป็นเหมือนเพื่อนสนิทสารพัดความเชื่อเกี่ยวกับยาทัมใจ จึงพลอยเป็นเสมือนเงาตามตัว “แอสไพริน” ยี่ห้อนี้ไปด้วยเป็นต้นว่า ในอดีตผู้หญิงบางคนที่คิดจะทำแท้ง...มีความเชื่อผิดๆบอกต่อกันแบบปากต่อปากว่า ต้องใช้สูตรนี้เลย...กินยาทัมใจ ผสมกับ ยาน้ำสตรีเบนโล...เป็นที่ร่ำลือกันว่า สามารถช่วยขับเลือดออกจากช่องคลอดได้!!!บ้างก็มีความเชื่อว่า ขับรถทางไกล ใช้ยาทัมใจ 1 ซอง เทผสมกับ กระทิงแดง หรือเครื่องดื่มประเภทเดียวกันยี่ห้อใดก็ได้ 1 ขวด...จะช่วยให้ตาสว่าง ราวกับใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาไว้ ช่วยให้สามารถขับรถได้ถึงจุดหมายปลายทาง ชนิดที่ถึงจุดหมายแล้ว...ยังหลับตาไม่ลง!!!เช่นกันกับ พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวเรือบางเจ้า...มีความเชื่อผิดๆ แบบคิดเอาเอง...มโนไปเอง ถ้าอยากให้พริกน้ำส้ม ในเครื่องปรุงรสก๋วยเตี๋ยว...เด็ดซะละตี่ล่ะก็...ต้องลองสูตรนี้เลย ใช้ ทัมใจ ผสมกับ สุราเชี่ยงชุน หรือ เหล้าจีน และ น้ำส้มสายชู (ปลอม) หมักไว้ในโอ่งกับพริกที่ผ่านการคั่วแล้วเชื่อกันว่า หลังจากซดน้ำซุปที่เติมน้ำส้มพริกดองสูตรนี้เข้าไป จะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งโปร่ง เบาหวิว จากฤทธิ์ของ “ทัมใจ” ส่วนเหล้าจีน มีกลิ่น และรสออกเปรี้ยวนิดๆ ช่วยชูรสชาติอาหารซดเข้าไปจึงซาบซ่านทุกรูขุมขน!!!เมื่อทาง “สกู๊ปหน้า 1” ได้นำความเชื่อเหล่านี้ไปสอบถามกับทางแพทย์ และนักโภชนาการ ทุกคนล้วนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า นอกจากอันตราย ยังไร้สาระสิ้นดี ยกเว้น กรณีเดียวที่มีส่วนจริง คือ การใช้สุราซึ่งมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม มาหมักอาหาร เพื่อช่วยให้สิ่งที่หมักมีความอ่อนนุ่มลง และมีกลิ่นชวนทานยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นสุราอะไรก็ได้ เช่น หมักด้วยไวน์ เหล้าจีน หรือบรั่นดี เป็นต้นแต่การนำเอา “ยาทัมใจ” หรือ “แอสไพริน” ไม่ว่ายี่ห้อใด ไปใช้ผสมในอาหาร ไม่ว่ากรณีใด ล้วนเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ยา ยาในกลุ่ม NSAIDs หากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทานเข้าไป ถือว่าอันตรายต่อชีวิตเป็นอย่างมากขอย้ำชัดๆกันไว้ตรงนี้อีกครั้ง แต่ละทีเด็ดเคล็ดลับความเชื่อเกี่ยวกับ “แอสไพริน” ที่แต่ละคนมโนกันขึ้นมา ล้วนเป็นความเชื่อผิดๆ และอันตรายอย่างยิ่ง...ผู้ที่นำมาใช้ นอกจากจะไม่รับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง หรือผู้อื่น ยังสมควรถูกจับและสาปแช่ง!!!