ตึกกระจกแตกเจ็บนับร้อยน้ำป่าซัดดินถล่มที่สบเมยฝังเด็ก2ขวบ-กลืนหายอีก7ผลกระทบจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่น “มังคุด” พัดถล่ม ฮ่องกง มาเก๊า และประเทศจีน ทำเอาประเทศไทย ฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากดินถล่มทับบ้านเรือนในศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยบ้านแม่ละอูน หนูน้อยเด็กหญิงวัย 2 ขวบ เสียชีวิตอนาถ 1 ศพ บาดเจ็บระนาว 11 คน และสูญหายอีก 7 คน บ้านพัง 6 หลัง ถนนในหมู่บ้านถูกตัดขาด จ.พังงา คลื่นสูงกว่า 2-4 เมตร มีการปัก ธงแดงชายหาดบางสัก ถึงชายหาดเขาหลัก ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานพายุมังคุดอ่อนกำลังลงเป็นโซนร้อน จะเคลื่อนเข้าสู่มณฑลยูนนานประเทศจีน ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศ ไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “มังคุด” ส่งผลประเทศไทยฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนถล่มลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากซัดถนนภายในหมู่บ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย ขาดสะบั้น รถสัญจรไม่ได้ ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ลี้ภัยจากการสู้รบบ้านแม่ละอูน ที่เคยถูกไฟไหม้หนักเมื่อกลางปี 60 ห่างจากบ้านแม่สามแลบราว 30 กม. ดินถล่มทับบ้านพักในศูนย์พังเสียหายหลายหลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บระนาว 11 คน และสูญหายอีก 7 ราย แถมถนนในหมู่บ้านถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรเข้าดำเนินการเปิดเส้นทางเร่งด่วน พร้อมเร่งค้นหาผู้สูญหายเต็มที่ เช่นเดียวกับสะพานข้ามลำห้วยแม่แงะ หมู่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ถูกกระแสน้ำซัดขาด ผู้นำท้องถิ่นร่วมกับชาวบ้านต้องทำสะพานชั่วคราวใช้เป็นที่สัญจรเช้าวันเดียวกัน นายสาคร รุ่งเรือง รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ ก่อนลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ลี้ภัยบ้านแม่ละอูน พร้อมเผยว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนเร่งระดมค้นหาผู้สูญหายอีก 7 คน การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีเศษไม้กองดินทับถมจำนวนมาก ในส่วนของผู้บาดเจ็บอยู่ในความดูแลขององค์กรเอกชนที่รับผิดชอบภายในศูนย์อพยพ ยังอยู่ภายใต้ขีดความสามารถในการดูแลกลุ่มผู้บาดเจ็บได้ ส่วนการฟื้นฟูช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมหารือกันว่าจะย้ายบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบหรือบ้านที่อยู่ในบริเวณเสี่ยงไปอยู่จุดใหม่เพื่อความปลอดภัยหรือไม่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นห่วงผู้สูญหายจากเหตุดินถล่มพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ลี้ภัยบ้านแม่ละอูน อ.สบเมย สั่งให้ทหาร ตำรวจ ป้องกันภัยและพลเรือน ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ จากการรับรายงานพบมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ คือ ด.ญ.น่ออิสเลิฟวาโซ อายุ 2 ขวบ บาดเจ็บ 11 คน เข้ารับการรักษาตัวในพื้นที่พักพิง 10 คน นำส่ง รพ.แม่สะเรียง 1 คน และมีผู้สูญหาย 7 คน คือ 1.นายซอเฮ่เกลอซู อายุ 28 ปี 2.นางน่อ–ลอยบือ ไม่ทราบอายุ 3.ด.ช.ซอแอะคริสเซ อายุ 3 ขวบ 4.ด.ช.ซอทูชิ อายุ 11 ขวบ 5.ด.ญ.น่อพอแชขือ อายุ 12 ปี 6.ด.ญ.ทูลอยวา อายุ 12 ปี และ 7.ด.ญ.พอเนอมูโซ อายุ 10 ขวบ ส่วนบ้านเรือนเสียหาย 6 หลัง ทั้งนี้ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งให้ทีมค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ เร่งดำเนินการจนกว่าจะพบผู้สูญหายทั้งหมดด้าน จ.กระบี่ คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเกาะไม้ไผ่ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ปักธงเหลืองหน้าหาดเตือนเรือและนักท่องเที่ยวระวังคลื่นลมแรง ส่วนหน้าร้านอาหารชาวเกาะกรุ๊ปอ่าวต้นไทร เกาะพีพี หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เจ้าของเรือหางยาว ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วยกันชักลากเรือหางยาวชื่อโซเฟียร์ทัวร์ 9 เข้าฝั่งหลังถูกคลื่นซัดล่มคนขับต้องกระโดดออกจากเรือ เครื่องยนต์หลุดจากตัวเรือตกลงในทะเล ระหว่างจอดรอนักท่องเที่ยวขึ้นเรือ ขณะที่บ้านคลองเสียด อ.เหนือคลอง มีรายงานน้ำ เริ่มไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ทางอำเภอส่งเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลืออพยพข้าวของขึ้นที่สูงกันให้วุ่น ที่ จ.พังงา คลื่นลมแรงความสูงของคลื่นกว่า 2-4 เมตร บริเวณชายหาดบางสักถึงชายหาดเขาหลัก อ.ตะกั่วป่า แหล่งท่องเที่ยวติดริมชายหาด โรงแรมรีสอร์ตห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำทะเลเด็ดขาดหวั่นเกิดอันตราย พร้อมจัดชุดลาดตระเวนตามแนวชายหาด และตั้งธงแดงและป้ายเตือนตลอดแนว อีกทั้งยังจัดเรือท้องแบน และอุปกรณ์ห่วงยางช่วยชีวิตไว้ตามแนวชายหาด เพื่อป้องกันอันตรายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ในช่วงที่มีคลื่นลมแรง ขณะที่จังหวัดประกาศเตือน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กะปง อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี และ อ.เมืองพังงา เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในที่พื้นที่เสี่ยงไหล่เขา หลังฝนตกหนักในพื้นที่จ.ตรัง ฝนถล่มและมีลมพายุหมุนพัดกระหน่ำในพื้นที่เศรษฐกิจเขตเทศบาลตำบลทุ่งยาว อ.ปะเหลียน ทำให้บ้านเรือนกระเบื้องหลังคา ฝ้าเพดาน ปลิวว่อนเสียหายกว่า 18 หลังคาเรือน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.ตรัง ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ พร้อมตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไว้แล้ว และเน้นย้ำให้ฝ่ายปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือและติดตามสถานการณ์ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชม. สำหรับพื้นที่ อ.เมืองสตูล ปริมาณน้ำสะสมยังคงมีมาก มวลน้ำจาก อ.ควนโดน ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ยังคงตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ ต.ฉลุงลด ยังคงมีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ถนนสายหลัก เส้นทางฉลุง-ละงู ยังถูกน้ำท่วมสูง ต้องให้เดินรถทางเดียว ช่วงเช้าการจราจรติดขัดเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับ ต.ควนขัน และ ต.พิมาน บางส่วนน้ำจากคลองบำบังเอ่อล้นเข้าท่วมเรือกสวนไร่นาและบ้านเรือน ชาวบ้านพากันเดือดร้อนทั่วหน้า ร.ร.อนุบาลเมืองสตูลถูกน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะบ้านพักครู ระดับน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร เช่นเดียวกับ ร.ร.บ้านย่านซื่อ อ.ควนโดน ทางเข้าโรงเรียนน้ำยังท่วมขังสูง ทั้งสองโรงเรียนต้องปิดเรียนเพื่อรอดูสถานการณ์ ทางจังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัยแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.ควนกาหลง อ.ละงู อ.เมืองสตูล และ อ.ควนโดนจ.นครพนม ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.นาแก ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเขาภูพานน้อย ทะลักท่วมบ้านเรือนพื้นที่หมู่ 1 บ้านพุ่มแก ต.พุ่มแก อยู่ติดกับเทือกเขาภูพานน้อย ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านเดือดร้อนร่วม 50 หลังคาเรือน ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ หลังมีการปรับลดการระบายน้ำลง ส่งผลให้ระดับน้ำตามลำน้ำสายหลัก เช่น ลำน้ำพาน ลำน้ำปาว ลำน้ำ ดอกไม้ ลดลงอย่างต่อเนื่องขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีลดลงเล็กน้อย แต่ในบางพื้นที่ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี เร่งสูบน้ำออกจากท่อระบายน้ำในเขตชุมชนลงแม่น้ำปราจีนบุรี เพื่อให้รับปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุมังคุดตกในพื้นที่ ส่งผลให้ถนนสายปราจีน-ท่างาม ยังคงมีน้ำท่วมผิวการจราจรเป็นระยะทางยาว 3 กม. ส่วนพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ และพื้นที่รอบนอก อ.เมืองปราจีนบุรี น้ำลดลงเล็กน้อย เนื่องจากชลประทานบางพลวงมีการบริหารจัดการเปิดประตูน้ำ หาดยาง 80 ซม. ประตูน้ำบางเดชะ 60 ซม. และประตูน้ำบางพลวง 100 ซม. เพื่อให้น้ำในแม่น้ำไหลเข้าทุ่งให้เป็นที่รับน้ำจ.จันทบุรี เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ฝนถล่ม น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาสระบาป เขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ ทะลักลงที่ลุ่มธารน้ำแบบฉับพลันจนเอ่อท่วมถนนสุขุมวิท บริเวณทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมไปถึงถนน ในพื้นที่ ต.เกวียนหัก ต.ตะปอน เกือบตลอดทั้งสาย เจ้าหน้าที่ ปภ.ร่วมกับหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี อำนวยความสะดวกพร้อมเฝ้าระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ก่อนมวลน้ำจำนวนมากจะไหลทะลักเข้าพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนในพื้นที่ลุ่ม และริมคลองหลายสิบหลังคาเรือน ชาวบ้านเดือดร้อนทั่วหน้า ส่วนเขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีการขึ้นธงแดงเตือนให้ประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังเขื่อนมีการระบายน้ำ 625 ลบ.ม./วินาทีส่วน จ.นครนายก น้ำยังท่วมขยายวงกว้าง 4 อำเภอคือ อ.บ้านนา อ.ปากพลี อ.องครักษ์ และอ.เมืองนครนายก บางจุดระดับน้ำสูงขึ้นมิดหัวชาวบ้านต้องใช้เรือแทนรถ ขณะที่บ้านเลขที่ 80/2 หมู่ 2 ต.บางปลากด อ.องครักษ์ เป็นบ้านของนายศรีสุชาติ พิมพ์กล่ำ อายุ 56 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.รพ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี มศว องครักษ์ ถูกน้ำท่วมขังสูง 80 ซม. ซ้ำยังถูกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง ลูกแมวตายคากองเพลิง 2 ตัว เจ้าหน้าที่คาดสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร จ.ปทุมธานี หลังฝนถล่มอย่างหนักเมื่อค่ำวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในคลองสองสายล่างมีปริมาณน้ำมาก จนเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนที่อยู่ติดริมคลองภายในชุมชนท้ายซอยจามร หมู่ 7 ต.คูคต อ.ลำลูกกา บางจุดระดับน้ำสูง 60-80 ซม. ชาวบ้านพากันเก็บข้าวของมีค่าขึ้นที่สูงกันให้วุ่นด้านนายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ นายอำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐม สั่งให้ว่าที่ร้อยตรีศิระ บุญแทน ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันนำสมาชิก อส.ลงพื้นที่ตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังจากลำรางย่อยคลองท่าสาร-บางปลา ต.ดอนข่อย เอ่อล้นท่วมขังเป็นวงกว้าง ชาวบ้านพากันเดือดร้อนอย่างหนัก 2-3 ร้อยครัวเรือน ชาวบ้านบางคนเริ่มเป็นโรคผิวหนัง จึงประสาน รพ.สต.ในพื้นที่นำยารักษาโรคเร่งรักษาโดยด่วนกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่องพายุ “มังคุด” (MANGKHUT) บริเวณประเทศจีนตอนใต้ อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว มีศูนย์กลางอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองหนานหนิง ประเทศจีนราว 63 กม. มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 90 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 33 กม./ชม.มีแนวโน้มว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ คาดจะเคลื่อนเข้าสู่เขตมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในวันที่ 18 ก.ย. ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่สำหรับภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากน้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนช่วงวันที่ 17-20 ก.ย. จะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งด้วยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไต้ฝุ่นมังคุด เมื่อวันจันทร์ 17 ก.ย. พายุลดความรุนแรงลงเหลือเป็นพายุโซนร้อน พัดอยู่บริเวณนครหนานหนิง เมืองเอกมณฑลกว่างซีจ้วง ทางภาคใต้ของจีน คาดว่าผลกระทบจากพายุทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนักในมณฑลกวางตุ้งและเกาะไหหลำตลอดถึงช่วงวันอังคาร โดยก่อนหน้านี้ ไต้ฝุ่นมังคุด ความเร็วลมศูนย์กลางพายุราว 162 กม./ชม. พัดชายฝั่งเขตเศรษฐกิจพิเศษนครเสิ่นเจิ้น ทำให้ไฟฟ้าดับบริเวณกว้าง แต่ไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง ส่วนฮ่องกงแม้ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ต้องเผชิญลมแรงและฝนตกหนัก ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น น้ำท่วมหลายพื้นที่โดยเฉพาะแถบริมทะเล กระแสลมแรงทำให้อาคารสูงระฟ้าหลายแห่งสั่นไหว กระจกหน้าต่างอาคารหลายแห่งแตกเสียหาย เที่ยวบินถูกระงับขึ้นลงจำนวนมาก ธุรกิจและการเดินทางบนเกาะฮ่องกงหยุดชะงักชั่วคราว มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 200 รายด้านผลกระทบพายุพัดถล่มฟิลิปปินส์ ทางการอยู่ระหว่างเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยและประเมินความเสียหายอย่างเป็นทางการ คาดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นมังคุดในฟิลิปปินส์อย่างไม่เป็นทางการอยู่ที่ราว 65 ราย แต่ตัวเลขผู้สูญหายยังอีกหลายสิบคน รวมถึงคนงานเหมืองแห่งหนึ่ง 33 คน และผู้สูญหายจากเหตุดินถล่มอีกเกือบ 30 คน ทางการระบุยอดผู้เสียชีวิตท้ายที่สุดอาจเกินกว่า 100 ราย