พนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ่อออกหมายเรียก 3 จนท.รัฐ ร่วมขบวนการกับ “ติวเตอร์แทน” ต้มตุ๋นเหยื่อฝากเข้ารับราชการตำรวจ ทหาร ทำงาน กฟผ. และหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ ทำหน้าที่จัดส่งผู้เสียหายให้ “ติวเตอร์แทน” ปฏิเสธให้ปากคำในชั้นสอบสวน มีอาการเครียดก่อนนำตัวไปฝากขังศาล ขณะที่เหยื่อทยอยเข้าแจ้งความตามท้องที่ต่างๆอีกเพียบ ตำรวจเตรียมออกหมายจับข้อหา “ฉ้อโกง” ไม่ต่ำกว่า 10 คดีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จับกุมนายวีระชัย หรือติวเตอร์แทน กาละภักดี อายุ 41 ปี อาจารย์และหุ้นส่วนสถาบันอักษรราม (เปิดกวดวิชา) ย่านหัวหมาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 245/2560 ลงวันที่ 4 ส.ค. 60 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง หลังนายวีระชัยหลอกลวงเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย อ้างรู้จักผู้ใหญ่ในวงราชการสามารถฝากเข้าทำงานรับราชการตำรวจ ทหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ. ได้แต่ผู้ที่สนใจจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าวิ่งเต้นรายละประมาณ 5 แสนบาท ที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลงเชื่อยอมจ่ายเงินค่าดำเนินการให้กับนายวีระชัยจำนวนหลายราย มูลค่าความเสียหาย รวม 30 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้นความคืบหน้าที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 17 ก.ย. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. กล่าวว่า การจับกุมนายวีระชัย กาละภักดี หรืออาจารย์ วีระชัย มีชื่อในวงการว่า ติวเตอร์แทน เป็นการจับตามหมายจับของศาล จ.กาฬสินธุ์ ข้อหาฉ้อโกง เท่าที่ตรวจสอบทราบขณะนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ กำลังจะมีการขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ส่วนผู้เสียหายหลายรายไม่เข้าแจ้งความนั้น เนื่องจากว่าหลังจากที่ติวเตอร์แทนรู้ตัวว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี จะติดต่อเคลียร์ค่าเสียหายให้ พร้อมกับให้ถอนแจ้งความ ทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่ถอนแจ้งความไม่เอาเรื่อง ทำให้ติวเตอร์แทนสามารถหลอกลวงเหยื่อได้มาตลอดเกือบ 2 ปีมีรายงานว่า ภายหลังตำรวจกองปราบปราม จับกุมนายวีระชัย หรือติวเตอร์แทน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เตรียมขยายผลสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม จะประสานข้อมูลตำรวจ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดีเดิม ตรวจสอบให้แน่ชัดว่านอกจากนายวีระชัย ยังมีบุคคลอื่นๆ เกี่ยวข้องและอยู่ร่วมในขบวนการอีกหรือไม่ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการหารือและรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขออำนาจศาลออกหมายค้นที่สถาบันอักษรราม ย่านหัวหมาก ของผู้ต้องหา เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐาน เพิ่มเติม นอกจากนี้ กองปราบฯยังได้รับการติดต่อ จากผู้เสียหายอีกหลายรายที่เคยถูกนายวีระชัย หลอกลวงฉ้อโกงในลักษณะดังกล่าว เพื่อขอเข้าแจ้ง ความดำเนินคดีกับนายวีระชัยเพิ่มเติมอีกด้วยรายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ได้รับการส่งมอบตัว นายวีระชัยจากตำรวจกองปราบฯ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วัฒนา เกษรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายวีระชัย เกี่ยวกับคดีดังกล่าวต่อในทันที แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดในชั้นสอบสวน ขอให้การในชั้นศาล เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างที่นายวีระชัยถูกควบคุมตัว เพื่อรอส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ผัดแรกในวันที่ 18 ก.ย. พบว่านายวีระชัยมีสีหน้าแววตาตึงเครียดและวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเดินทางมาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง เพื่อดำเนินคดีกับนายวีระชัยเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก คดีที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่เข้ามาแจ้งความนั้นจะเป็นคดีในลักษณะถูกหลอกเรียกรับเงินค่าดำเนินการฝากเข้ารับราชการตำรวจ ทหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้ ยังมี ผู้เสียหายรายอื่นๆ กระจายเข้าแจ้งความตามสถานีตำรวจท้องที่อื่นๆอีกหลายแห่งและคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะมีการออกหมายจับนายวีระชัยในคดีฉ้อโกงเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดีนอกจากนี้ จากข้อมูลที่ได้จากผู้เสียหายและจากการสืบสวน เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีผู้ร่วมกับนายวีระชัยต้มตุ๋นหลอกฝากเข้าทำงาน เข้าข่ายต้องสงสัยร่วมขบวนการ 3 คน ประกอบด้วย นางร่วมจิต ตันติเพชรรัตน์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสว่างแดนดิน จ.สกลนคร น.ส.วิภานันท์ สาระรัตน์ เจ้าหน้าที่ อบจ.หนองบัวลำภู และชายไม่ทราบชื่อ เป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งนายช่างองค์การบริหารส่วนตำบลโนนแหลมทอง จ.กาฬสินธุ์ หลังพบมีพฤติการณ์ทำหน้าที่จัดหาผู้เสียหายส่งต่อให้กับนายวีระชัย พนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง เตรียมออกหมายเรียกทั้ง 3 คน มาให้ปากคำ อย่างไรก็ตาม สำหรับนางร่วมจิต 1 ในผู้ต้องสงสัย 3 ราย ที่จะถูกออกหมายเรียก เคยมีประวัติถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คำม่วง และ สภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร จับกุมในคดีที่ได้เคยร่วมกับนายวีระชัย ฉ้อโกงผู้เสียหายในลักษณะฝากเข้าทำงานใน กฟผ.มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อช่วง 2-3 เดือน ก่อนหน้านี้ด้วย