เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงเจริญพระชันษา 68 ปี ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติถวายเป็นพระกุศล และได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ จักรวาลแห่งน้ำพระทัยพระปรีชาสามารถด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในพระดำริ ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารกรมพระศรี สวางควัฒน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ในงานได้มีการแถลงข่าวความสำเร็จของยารักษามะเร็งมุ่งเป้าชนิดเม็ดตำรับแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยมี รศ.ดร.เภสัชกรหญิง จุฑามณี สุทธิสีสังข์ รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ดร.ภก.วัชระ กาญจนกวินกุล ผอ.โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ พญ.จอมธนา ศิริไพบูลย์ ผอ.ศูนย์มะเร็งวิทยา รพ.จุฬาภรณ์ ได้ร่วมแถลงถึงผลความสำเร็จในการผลิตยารักษาโรคมะเร็งมุ่งเป้าชนิดเม็ดตำรับแรกในประเทศไทยจากโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ภายใต้ชื่อยา “อิมครานิบ 100/IMCRANIB 100” โดยได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ปี 2568 รศ.ดร.เภสัชกรหญิง จุฑามณี นำการแถลงว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกลที่จะพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ การสาธารณสุขของประเทศไทยและต่อยอดงานวิจัยสู่อุตสาหกรรมยา ด้วยทรงตระหนักถึงความยากลำบากของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ไม่สามารถเข้าถึงเภสัชภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง ทรงมีพระดำริให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ดำเนินโครงการโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ที่ตั้งอยู่ ณ พระตำหนักพิมานมาศ จ.ชลบุรี ในปี 2563 เพื่อให้เป็นโรงงานต้นแบบผลิตเภสัชภัณฑ์ ที่จะเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถการวิจัยและการพัฒนาเภสัชภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ต่อเนื่องสมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ที่มีความทันสมัยและครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิตยาและการกระจายยา GMDP PIC/s ตามมาตรฐานสากลและมีศักยภาพด้านการวิจัยทางเภสัชกรรมซึ่งมีความสามารถนำองค์ความรู้จากการวิจัยมาต่อยอดเป็นการผลิตระดับอุตสาหกรรม สำหรับ “ยาอิมครานิบ 100” คือ ยารักษาแบบมุ่งเป้า ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosine kinase ที่สามารถยับยั้งการเติบโตและการกระจายของเซลล์มะเร็ง ทำให้สามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับเคมีบำบัดแบบเดิม ซึ่งสามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้หลายประเภท เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดซีเอ็มแอล มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดฟิลาเดลเฟียบวก มะเร็งเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร (GIST) มะเร็งผิวหนังชนิดหายาก (DFSP) แม้ว่ายาอิมมาทินิบนี้จะสามารถเบิกจ่ายจากกองทุนสุขภาพได้ในหลายโรคแล้วก็จริง แต่ยังมีข้อจำกัดในบางโรค การผลิตได้เองในประเทศ จะช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดนี้ โดยการขยายขอบเขตการใช้ยาให้ครอบคลุมทุกข้อบ่งชี้ของการรักษาซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการควบคุมโรค และช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยศูนย์มะเร็งวิทยา ได้พิจารณานำยา “อิมครานิบ 100” ไปใช้จริงกับผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังมีความพร้อมในด้านระบบบริการ การจัดการยา และการติดตามข้อมูลผลลัพธ์ทางคลินิก โดยทำงานประสานร่วมกันระหว่างแพทย์ เภสัชกร และทีมสนับสนุน เพื่อให้การนำร่องนี้เกิดประสิทธิภาพ และความปลอดภัยโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่