ถั่วปากอ้า อาหารขบเคี้ยวที่คนไทยนิยมทานเล่น ด้วยรสเค็มๆ มันๆ ทานแล้วเพลิน ทว่าถั่วเป็นอาหารที่มักพบสารพิษอะฟลาท็อกซินปนเปื้อน หากใช้วัตถุดิบหรือมีการผลิตไม่สะอาดไม่ถูกสุขลักษณะ หรือเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิและความชื้นสูง จนทำให้ถั่วเกิดเชื้อราซึ่งทำให้เกิดสารพิษอะฟลาท็อกซินปนเปื้อนได้ สารพิษชนิดนี้ผลิตโดยเชื้อรากลุ่ม แอสเปอร์จิลลัส ฟลาวัส และ แอสเปอร์จิลลัสพาราซิติกัส มักพบปนเปื้อนในอาหารจำพวกแป้ง ผลิตภัณฑ์จากแป้ง ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลิสงดิบ ถั่วลิสงคั่ว ข้าวโพดและอาหารแห้ง เช่น ผลไม้อบแห้ง ปลาแห้ง กุ้งแห้ง พริกแห้งหากได้รับสารพิษอะฟลาท็อกซินจากการทานอาหารและเกิดการสะสมในร่างกาย จะส่งผลให้มีอาการชัก หายใจลำบาก ตับถูกทำลาย หัวใจและสมองบวม หากได้รับเป็นประจำจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งตับอีกด้วย ที่สำคัญความร้อนไม่สามารถทำลายสารพิษอะฟลาท็อกซินได้วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ ป้องกันไม่ให้สารพิษชนิดนี้ปนเปื้อนในวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบอาหารต่างๆวันนี้ สถาบันอาหารเก็บตัวอย่างถั่วปากอ้าจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 5 ร้านค้าแผงลอย ร้านอาบังขายถั่วในตลาดและร้านค้าริมทางในเขตกรุงเทพฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์สารพิษอะฟลาท็อกซินปนเปื้อน ผลวิเคราะห์พบว่าทั้ง 5 ตัวอย่าง ไม่พบอะฟลาท็อกซินปนเปื้อนเลยวันนี้ คนกรุงเทพฯทานถั่วปากอ้ากันได้อย่างสบายใจ แต่ขอแนะนิดว่าควรเลือกซื้อจากร้านที่ทำสดใหม่ ถั่วไม่มีกลิ่นเหม็นหรืออับชื้น หรือมีจุดดำๆ ที่สำคัญไม่ควรใส่เกลือมากนักเพราะหากทานถั่วปากอ้าแล้วเพลิน จนทานกันในปริมาณมากๆ หรือทานเป็นประจำเพราะความชอบ อาจทำให้ได้รับโซเดียมจากเกลือมากตามไปด้วย คราวนี้โรคที่ตามมาอาจเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ก็เป็นได้. ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัยคลิกอ่านคอลัมน์ "มันมากับอาหาร" เพิ่มเติม