คุกกี้เนยของหวานที่ทานเป็นอาหารว่างและใช้เป็นของขวัญ ของฝากตามเทศกาลต่างๆ คุกกี้เนยมีรสชาติหวานมันกลมกล่อม หอมกลิ่นเนย เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ คนไทยนิยมทานคู่กับชา กาแฟ ด้วยความที่คุกกี้เนยมีส่วนผสมหลักของเนย แป้ง น้ำตาลทราย ไข่ไก่ ทำให้ในคุกกี้เนยมีปริมาณของคอเลสเทอรอลอยู่ไม่น้อย ปกติร่างกายเราต้องการคอเลสเทอรอลเพื่อสร้างผนังเซลล์ เยื่อสมอง สังเคราะห์น้ำดีและวิตามินดีและใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนเพศ โดยร่างกายได้รับคอเลสเทอรอลจากการสังเคราะห์ขึ้นเองในร่างกายและได้รับจากอาหารที่ทาน เช่น อาหารหวาน มัน เค็ม เนื้อสัตว์ติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล แม้คอเลสเทอรอลเป็นไขมันที่ร่างกายต้องการ แต่หากได้รับในปริมาณที่สูงเกินไปเกินความต้องการของร่างกายเป็นประจำ จะทำให้เกิดการสะสมในร่างกายและก่อโทษได้ เช่น การสะสมในหลอดเลือดแดง เกาะหรือพอกในหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดตีบลง ขัดขวางการไหลของเลือดในหลอดเลือด เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงเกิดภาวะขาดเลือด เกิดการตายของเนื้อเยื่อที่เลือดไม่สามารถไหลไปหล่อเลี้ยงได้ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด สถาบันอาหารเก็บตัวอย่างคุกกี้เนยจำนวน 5 ตัวอย่าง จาก 2 ร้านค้า และ 3 ยี่ห้อ ในกรุงเทพฯ และ จ.นนทบุรี เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณคอเลสเทอรอล ผลวิเคราะห์พบว่าคุกกี้เนย 5 ตัวอย่าง มีปริมาณคอเลสเทอรอลอยู่ในช่วง 17.34-69.65 มิลลิกรัมต่อคุกกี้เนย 100 กรัม หรือ 1 ขีดตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้คนทั่วไปที่มีสุขภาพดีและมีความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี ได้รับคอเลสเทอรอลอย่างปลอดภัยได้ไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ฉะนั้นท่านที่ชอบทานคุกกี้อาจต้องตระหนักถึงปริมาณที่ทานในแต่ละครั้งและแต่ละวันด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับคอเลสเทอรอลไม่เกินคำแนะนำข้างต้น เพราะอย่าลืมว่าอาหารชนิดอื่นๆที่เราทานในแต่ละวันอาจมีคอเลสเทอรอลอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย เพื่อความปลอดภัยและปลอดโรค. ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัยคลิกอ่านคอลัมน์ “มันมากับอาหาร” เพิ่มเติม