“ท้าวทองกีบม้า” คือตำแหน่งในห้องเครื่องสมัยกรุงศรีอยุธยา ในกฎหมายตราสามดวงระบุไว้ว่า พนักงานวิเสทกลางมี 3 ตำแหน่งคือ ท้าวเทพภักดีของคาว ท้าวทองพยศของหวาน และท้าวทองกีบม้า ตำแหน่งราชการนี้ศักดินา 400คนไทยทราบกันดีว่าขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง คนต้นคิดคือ “ท้าวทองกีบม้า” ท่านนี้“คุณชาย 1” พลันให้ระลึกนึกถึงตำนานเล่าขานขนมไทย “ตระกูลทอง” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ขนมมงคล” จึงได้ดั้นด้นขอพาไปตระเวนชิมถึงถิ่นฐานผู้สืบสานตำนานขนมไทยที่ว่านี้ ตรงดิ่งไปกันที่ “ขนมไทยป้ามะลิ” ซ.เกาะเรียน 13 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงเรือนชานบ้านขนมไทยป้ามะลิ แต่ละคนแบ่งแยกหน้าที่เป็นสัดส่วน บางคนก็ปั้นไส้เม็ดขนุน บางคนก็จุ่มเคลือบอย่างประณีต บางคนก็หยอดฝอยทอง เม็ดทองหยอด บางคนก็หยิบทองหยิบในกระทะน้ำเชื่อมมาหยิบใส่ถ้วยเรียงรายเอาไว้อย่างงดงามบรรจงเมียงมองให้ละลานตากับขนมหวานตระกูลทอง แน่นอนว่ามองแล้วก็ต้องชิมเพราะชื่อเสียงนั้นระบือไกลการันตีว่าอร่อยมากๆ คุณชายฯ ขอเริ่มจาก “ฝอยทอง” เพราะหัวใจ (ชาย) นั้นชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับ เส้นบางเบาดูจากภายนอกแต่เมื่อชิมแล้วนั้นนุ่มนวลชุ่มฉ่ำฟินเว่อร์เสียนี่กระไรที่สำคัญ...ไม่หวานโอเว่อร์ แบบว่า...กินเยอะๆ กินมากๆ คงจะไม่อ้วน 555แล้วก็มาถึง “ทองหยอด” เป็นเมนูทองต่อมา “ฉ่ำ”...คำเดียวสั้นๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง ด้วยว่าทองหยอดป้ามะลินั้นหอมมากๆ อร่อยมากๆ รสก็หวานกำลังละมุนลิ้นแบบว่าลึกซึ้งตรึงใจ ไม่อยากห่างไปจากจาน ขออยู่วนๆเวียนๆ กินซ้ำกินซ้ำไปเรื่อยๆอย่างนี้ ตัดฉากกันสักหน่อยด้วยโฉบไปดูเขาเคลือบเม็ดขนุนด้วยไข่แดงเป็ดในกระทะทองเหลือง น้ำเชื่อมไม่ได้เดือดพล่าน ว่ากันตามเทคนิคที่ได้ฟังมา ความร้อนต้องนิ่งกำลังดีไม่อย่างนั้นเม็ดขนุนจะออกมาไม่สวย หากแต่ที่เห็นนั้นพอจะบอกได้ว่าชำนาญมากๆ เป๊ะๆเสมอเหมือนกัน สวยงามทุกเม็ดเท่าๆกันสุดๆเม็ดขนุนป้ามะลิมีด้วยกัน 3 ไส้...ต้นตำรับ “ไส้ถั่ว” อันนี้ต้องลองเลยห้ามพลาดเพราะรสสัมผัสหนึบๆ หนับๆ กำลังกิน รสหอมอร่อย เคี้ยวเพลินแบบหยุดไม่อยู่กันได้เลย ถัดมาก็...“เผือก” ใครชอบ ใครรัก ก็คงต้องหลงแบบถลำลึกหากได้ลอง เพราะคือดีย์... เหลือเกิน เข้ากันมากๆ ผสมผเสกันไปทั้งรสไส้ทั้งรสผิวเคลือบสัมผัสสุดท้าย “มันม่วง” ก็อร่อยไม่แพ้ใคร มีดี มีทีเด็ดด้วยกลิ่นมันม่วงที่ชัดเจนแจ่มแจ๋วมากๆ ความหวานหอมเสน่ห์ขนมไทยป้ามะลิยังไม่หมดลงเท่านี้ ยังมีทองหยิบที่ตั้งวางรอให้ผู้มาเยือนได้เชยชิมอีกเป็นถาด หน้าตาฉ่ำๆ หวานๆ คำโตเช่นนี้ ลองแล้วชิมแล้วกลับหวานกำลังดี อร่อยเบาๆ ไปได้เผลอใจหลงไปอยู่ในวังวนทองหยิบครู่ใหญ่ก็กินเข้าไปตั้ง 5 หยิบก่อนจะผละหลบฉากไปคุยกับป้ามะลิต้นตำรับความอร่อย ก็ยังแอบสั่งขนมกลับบ้าน ขอให้จัดเป็นเซตรวม ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน 3 ไส้...แบบกล่องใหญ่จัมโบ้ 250 บาท 2 กล่องตั้งใจว่าขนมหวานต้นตำรับอร่อยๆเช่นนี้ ผู้รับคงดีใจปลื้มปริ่มมากๆที่ได้ชิม อีกทั้งรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เช่นนี้คงไม่ได้หากิน ง่ายๆในเมืองหลวง กทม.เป็นแน่แท้เดินไปไม่กี่ก้าวก็ได้มาเจอกับ มะลิ ภาคาพร อายุ 78 ปี ผู้สืบสานตำนานขนมไทยท้าวทองกีบม้าป้ามะลิเล่าให้ฟังว่า ชื่อขนมไทยป้ามะลิตั้งตามชื่อของตัวเอง ขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว สั่งสมประสบการณ์ความอร่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ คงคุณภาพ คงมาตรฐานเอาไว้อย่างคงเส้นคงวา แรกเริ่มเดิมทีสมัยยังไม่ได้ทำขนมขายก็ไปช่วยแรงทำขนมตามงานบุญต่างๆ ราวปี 2546 ก็เริ่มตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนก็อาจจะเรียกได้ว่า “ขนมไทยแม่มะลิ” ได้เติมเต็มความอร่อยสายหวานมานับแต่นั้นเรื่อยมาขนมที่ทำก็ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน...ไส้ถั่ว เผือก มันม่วง คนชอบทานก็เป็นลูกค้ากันมายาวนาน ถึงวันนี้ก็จะเป็นขนมไทยหลักที่มีขายอยู่ตลอด แต่ถ้ากลัวพลาดก็ควรที่จะสั่งล่วงหน้าก่อน หรือใครจะจัดงานบุญ ต้องการขนมไทยไปทำบุญก็สั่งไว้ล่วงหน้า นัดวันเวลากันอีกทีหนึ่งนอกจากขนมหลักๆแล้ว ขนมไทยอื่นๆ ป้ามะลิก็มีทำ เช่น ข้าวเหนียวสังขยา ขนมหม้อแกง วุ้นเคล็ดลับทำขนมไทยให้อร่อย ป้ามะลิ บอกว่า เราเรียนรู้สืบต่อภูมิปัญญามาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เฒ่าผู้แก่ทำมาแต่โบราณก็เรียนรู้ เรียนทำกันมา แล้วเราก็เป็นลูกมือสมัยยังเด็กๆก็ทำมาเรื่อยๆจนเป็นต้นตำรับสูตรดั้งเดิมเลยเขาก็บอกว่ามาจาก...“ท้าวทองกีบม้า” เป็นตำนานขนมไทยของอยุธยายุคเปลี่ยนสมัยเปลี่ยนถึงวันนี้ก็มีปรับเปลี่ยนไปบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของความหวานที่น้อยลงเพื่อสุขภาพของคนกิน ความหวานที่ลดน้อยลงไปก็ไม่ได้ลดความอร่อยลงไป แบบว่าอร่อยๆ กำลังดี รักษาสุขภาพไปด้วย ว่ากันถึงความประณีตพิถีพิถันในการทำขนมไทย...โดยเฉพาะขนมตระกูลทอง “ขนมไทยป้ามะลิ” @อยุธยา สืบสานตำนานท้าวทองกีบม้า“ทองหยอดถือว่ายากที่สุด ยากตรงการหยอดให้ได้ขนาดที่พอเหมาะสวยงามเสมอกัน คนส่วนใหญ่ก็หยอดไม่ค่อยเป็นสอนยาก บางคนหัดตั้งนานก็ยังทำไม่ได้ เราอาจจะชินชำนาญเพราะทำมาตั้งแต่เด็ก”แต่...ก็อีกนั่นแหละ สมัยนี้เขาก็ใช้เครื่องหยอดอัตโนมัติเข้ามาช่วยได้ แต่กับขนมไทยป้ามะลิระดับตำนานอย่างนี้ รับประกันเลยว่าหยอดมือทุกเม็ดล้านเปอร์ เซ็นต์ สืบสานความเป็นขนมไทยโบราณจริงๆ“ขนมไทยป้ามะลิ” เปิดทุกวัน 09.00-17.00 น. ลงครัวกันตั้งแต่เช้ามืด บางวันถ้าออเดอร์มากก็เริ่มสาละวนกันตั้งแต่ตีสามตีสี่ก็เคยมีมาแล้วปักหมุดพิกัดความอร่อย “ขนมไทยป้ามะลิ” หรือ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มขนมไทยป้ามะลิ” เลขที่ 8 หมู่ 4 ซ.เกาะเรียน 13 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรี อยุธยา โทร.สอบถามสั่งขนมหวานล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 08–1991–3424 เฟซบุ๊ก : “ขนมไทยป้ามะลิ ขนมไทยกรุงเก่า เกาะเรียน”. คุณชาย 1