ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นักโบราณคดีได้ค้นพบหลักฐานของมนุษย์โบราณที่อาศัยอยู่ในวอลเลเซีย (Wallacea) ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะในอินโดนีเซียตั้งอยู่ค่อนข้างใกล้กับออสเตรเลีย ในถ้ำชื่อ Leang Bulu Bettue ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุลาเวสี โดยพบเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ และศิลปะถ้ำ ทว่าชิ้นส่วนซากมนุษย์กลับมีเพียงเล็กน้อยล่าสุดทีมวิจัยนานาชาติ นำโดยอดัม บรัมม์ นักโบราณคดีจากศูนย์วิจัยวิวัฒนาการมนุษย์ออสเตรเลียน แห่งมหาวิทยาลัยกริฟฟิธในออสเตรเลีย รายงานการค้นพบกระดูกขากรรไกรที่มีฟันกรามสามซี่ติดอยู่ อายุระหว่าง 25,000-16,000 ปีก่อน ตรงกับปลายสมัยไพลสโตซีนที่อยู่ในช่วงเวลาของยุคน้ำแข็ง แม้จะยังไม่สามารถระบุเพศหรืออายุของบุคคลนี้ได้ แต่ก็เชื่อว่าน่าจะสืบเชื้อสายมาจากประชากรมนุษย์ยุคใหม่ที่เดินทางมาถึงเกาะสุลาเวสีโดยทางเรือเมื่อหลายหมื่นปีก่อน และยังเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ยุคใหม่กลุ่มแรกที่มาถึงออสเตรเลีย อีกทั้งระบุว่าซากกระดูกขากรรไกรนี้เป็นของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบในภูมิภาควอลเลเซียจากการศึกษากระดูกขากรรไกรของบุคคลนี้พบว่าเขาอาจมีอายุมาก มีฟันที่เล็ก และเจ็บป่วยจากโรคในช่องปากไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากสูญเสียฟัน เป็นโรคเหงือก ฟันผุ ที่น่าสนใจคือฟันกรามถูกบด แสดงว่าเขาใช้งานฟันกรามเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง นอกจากนี้วิเคราะห์พบว่าเขากินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมาก.(ภาพประกอบ Credit : Brumm et al., 2021, PLOS ONE, CC-BY 4.0 (creativecommons.org/licenses/by/4.0/))