ถึงแม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบกับการระบาดระลอกใหม่ของโรค “โควิด-19”แต่ “โนริอากิ ยามาชิตะ” บิ๊กบอสคนใหม่ของค่ายโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เจ้าพ่อตลาดรถบ้านเรา ยังคงย้ำลั่นว่ามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่จะสามารถจัดการกับการระบาดรอบนี้“ปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายอีกครั้งสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เนื่องจากยังคงต้องเผชิญกับหลายปัจจัย ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์”สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าในไทย ซาโจ้ใหญ่ประกาศว่า ขณะนี้โตโยต้าได้ก้าวสู่ยุคแห่งการปฏิรูปครั้งใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นปฏิรูปองค์กรจากเดิมที่เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สู่การเป็น “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน” (Mobility Company)มีเป้าหมายเดินหน้ามอบความสุขให้กับสังคมไทย ด้วยกิจกรรมต่างๆอย่างเช่นจาก “พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2050” โตโยต้ามุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็น “ศูนย์” ในทุกกิจการที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะโดยในระดับโลก โตโยต้าได้ท้าทายตัวเองให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ 90% เมื่อเทียบกับปี 2553 และที่ผ่านมาได้แนะนำยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น อาทิ รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงเชื่อมั่นว่ารถยนต์เหล่านี้นำมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน และสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย คือผู้ผลิตรถยนต์รายแรกในประเทศไทยที่ริเริ่มการผลิตรถยนต์ไฮบริด ด้วยการแนะนำรถยนต์คัมรี ไฮบริด ตั้งแต่ปี 2552 และตามมาด้วยรถยนต์ไฮบริด อีกหลากหลายรุ่นในปัจจุบัน โตโยต้ามีพันธมิตรที่ร่วมกระบวนการบริหารจัดการแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดใช้แล้วแบบครบวงจร หรือ “3R Scheme” ประกอบด้วย การใช้ซ้ำ (Re-use) การผลิตแบตเตอรี่เกรดใช้งานแล้วลูกใหม่ (Re-built) และการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ (Recycle)ในฐานะ “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน” โตโยต้าได้มอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้า ด้วยการนำเสนอ “ประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่” ผ่านโครงการคินโตะ (KINTO) ซึ่งเป็นบริการเช่ารถ และแพ็กเกจการให้บริการ พร้อม “การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์รูปแบบใหม่” ที่ทำให้ลูกค้า “เป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น”ทั้งยังแนะนำแพลตฟอร์มใหม่ “โตโยต้า วอลเล็ท” กระเป๋าเงินดิจิทัล เพิ่มอิสระในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และตอบสนองต่อการใช้ชีวิตวิถีใหม่ในยุคหลังโควิด-19 ในการยกระดับ “ประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่”ทั้งยังได้นำเทคโนโลยี “T-Connect” เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรถรุ่นใหม่ๆ หลากหลายรุ่น อาทิ ไฮลักซ์ รีโว่ ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ โคโรลล่า ครอส และอินโนว่า คริสต้า โดยมี “ระบบติดตามรถหาย” “รายงานการเดินทาง” “ค้นหาตำแหน่งรถ” และ “บริการผู้ช่วยส่วนตัว”ยิ่งไปกว่านั้น “T-Connect” ยังมีบทบาทสำคัญในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยแนะนำประกันภัยรูปแบบใหม่ นั่นคือ “ประกันภัยขับดีลดให้” โดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมการขับขี่เพื่อการคำนวณเบี้ยประกันภัยว้าว สุดปังปุริเย่!!!อัลคาโปนmotorwars@thairath.co.th