สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ฝีมือของผู้บริหารรุ่นใหม่ ในการนำพาองค์กรให้รอดพ้นวิกฤติทางเศรษฐกิจ กาญจน์สุดา เอื้ออารีวรกุล เป็นหนึ่งในผู้บริหารที่ได้รับผลกระทบ และเตรียมพร้อมรับมือใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสสร้างความพร้อมสร้างทีมงานเพื่อที่จะลุยสู้งานในอนาคตไหม–กาญจน์สุดา ได้เข้ามาเป็นแขนขาดูแลธุรกิจของที่บ้าน โดยเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 2 ของ Limousine Express ที่ให้บริการรถยนต์ลีมูซีน รับส่งจากบ้านหรือโรงแรมสู่สนามบิน ให้แก่โรงแรมและผู้บริหารองค์กรใหญ่ต่างๆ โดยเธอเล่าว่า เดิมทีที่บ้านมีธุรกิจเคเบิลทีวี เจริญเคเบิลทีวี ให้บริการระบบเคเบิลทีวี IPTV และอินเตอร์เน็ต แก่อพาร์ตเมนต์, หอพัก และโรงแรมต่างๆ และธุรกิจ Limousine Express ซึ่งตั้งมา 20 ปีแล้ว ด้วยความที่ ไหม เป็นลูกคนโต พอเรียนจบปริญญาตรี จากวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้เข้ามาช่วยงานที่บ้าน จากนั้นก็ได้ไปหาความรู้เพิ่มเติม ด้วยการไปเรียนปริญญาโท ด้านบริหาร MBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่ง ไหม เข้ามาเป็นผู้บริหาร Limousine Express ได้ปีกว่า โดยดูแลด้านมาร์เกตติ้งร่วมกับหุ้นส่วน “ลูกค้า Limousine Express ตอนนี้จะเป็นลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ หรือลูกค้าวีไอพีที่ซื้อประกันชีวิต รวมทั้งผู้โดยสารชั้นบิสซิเนส หรือเฟิสต์คลาสของสายการบินต่างๆ ที่มีดีลกับทางเรา เราดีลกับบริษัทมากกว่าดีลกับผู้โดยสารรถโดยตรง พอเกิดวิกฤติเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เราไม่มีการบริการเท่าไหร่นัก ไหมก็พยายามมองโอกาสจากวิกฤตินี้ ทำให้เราได้หันมาดูภายในองค์กรเรามากขึ้น ดูภายในว่าเราควรต้องปรับองค์กร ปรับปรุงพัฒนาพนักงานอย่างไร เรียกว่า เคลียร์หลังบ้านเราให้พร้อม เช่น พัฒนางานโอเปอเรชั่น พัฒนาบุคลากร ให้เขาไปเรียนภาษาอังกฤษ พัฒนาระบบการทำงานให้ไหลลื่น ได้ดีขึ้น พอสถานการณ์ทุกอย่าง ดีขึ้น เราก็จะพร้อมลุยไปข้างหน้าได้เต็มที่ ในส่วนของงานเคเบิลทีวี ซึ่งเรามีลูกค้าทั้งโรงแรม โรงพยาบาล อพาร์ตเมนต์ หอพัก รวมทั้งโรงแรม 4-5 ดาว เราก็จะพยายามขยายฐานให้เพิ่มมากขึ้น การบริการมีทั้งแบบรายวันรายสัปดาห์”ในการเป็นหัวเรือนำพาองค์กรให้เติบโต ผู้บริหารสาวเก่งคนนี้ บอกว่า ไหมโชคดีที่คุณพ่อได้พยายามปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัทจากระบบเถ้าแก่ มาเป็นรูปแบบบริษัทที่มีขั้นตอนการทำงานที่ดีอยู่แล้ว วิธีการทำงานจึงทันสมัย เมื่อไหมเข้ามารับงานจึงมีความต่อเนื่อง ไม่มีช่องว่างระหว่างวัยในการทำงานมากนัก สไตล์การทำงานของเธอเป็นแนวรุก เป็นคนทำงานเร็วบางครั้งจึงต้องเบรกตัวเองให้เวลาทีมงานในการทำงาน“ในการทำงาน ไหมจะไม่มีคำว่า เจ้านายเก่ง แต่เราจะใช้คำว่า ทีมงานเราเก่ง! การทำงานต้องทำเป็นทีม เราไม่สามารถทำสำเร็จได้คนเดียว ไหม เลยเน้นในเรื่องการพัฒนาคน พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ถ้าวันหนึ่งเราอยากรีไทร์ บริษัทก็ต้องสามารถดำเนินไปได้อย่างดี เวลาทำงาน ไหมเลยไม่ใช้วิธีการสั่งการ แต่จะใช้การพูดคุยด้วยเหตุผล ทุกคนสามารถเสนอไอเดียได้ เพราะไหมเชื่อว่าทุกเสียงของพนักงานนั้นมีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถ หรือช่างซ่อม ถ้าเขากล้าที่จะมาบอกเรา เราต้องเอะ แสดงว่ามีอะไร เราต้องฟัง ไหม จะให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนค่ะ”...นี่คือ วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสาวคนเก่งคนนี้.
