เรียกเสียงฮือฮา!! เมื่อกลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ “กลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย” หนึ่งในกลุ่มทุนยานยนต์รายใหญ่ของไทย ประกาศลั่นเดินหน้าเต็มพิกัดก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย แบ่งเป็น 8 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย1.กลุ่มรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ใหม่ ในนาม โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก, แอสตัน มาร์ติน แบงคอก, โมเดนา มอเตอร์เวอร์ค, มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป (บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ), ซัมมิท ฮอนด้า, บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และฮาร์เลย์-เดวิดสัน2.กลุ่มรถยนต์และมอเตอร์ไซค์มือสอง ในนามบีเอ็มดับเบิลยู (BMW Premium Selection), มินิ (MINI Next), ฮอนด้าเซอร์ทิฟายยูสคาร์, มาสเตอร์เซอร์ทิฟาย ยูสคาร์ (มัลติแบรนด์), ซุปเปอร์คาร์ และยัวร์ไบค์3.กลุ่มธุรกิจรถเช่าระยะสั้นและระยะยาว ในนามบริษัท มาสเตอร์คาร์เร้นเทิล จำกัด และซิกท์ (SIXT) เร้นท์อะคาร์ ธุรกิจบริการพนักงานขับรถ ในนามบริษัท มาสเตอร์ ไดร์ฟเวอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด4.กลุ่มธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เกต ในนามบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (MMS)5.กลุ่มธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย ในนามบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง “แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์” และ “ฮาวเด้น อินชัวรันส์” โบรกเกอร์ ภายใต้ไฮพีเรียน กรุ๊ป ซึ่งเป็นนายหน้าประกันภัยที่ใหญ่สุดในโลก (ไม่รวมสหรัฐอเมริกา) ให้บริการด้านประกันภัยแบบครบวงจร6.กลุ่มธุรกิจให้บริการศูนย์สารสนเทศ ในนาม “ไอทเวนตี้โฟร์” และ “ไอเอ็มเอ็กซ์”7.กลุ่มธุรกิจศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร ในนามบริษัท มาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์และ 8.กลุ่มธุรกิจเรือสำราญ อะซิมุท ยอชท์ ไทยแลนด์ ในนามบริษัท เอ็มจีซี-มารีน (เอเชีย) จำกัด“ดร.จุ๋ย-สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” ซีอีโอของกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย รัวกลองรบประกาศว่าปีนี้กลุ่มเอ็มจีซี-เอเชียจะเดินหน้าเพิ่มศักยภาพด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0 และการขยายเครือข่ายด้านการบริการยึดหลักการ “ลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ” ตามเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 (พ.ศ.2563) หรือ Vision 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ พร้อมบริการครบวงจรในประเทศไทยและอาเซียนโดยปีที่ผ่านมากลุ่มเอ็มจีซี-เอเชียมีรายได้รวมอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 15% สำหรับปีนี้ได้ตั้งเป้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15%ขณะเดียวกันกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชียมองว่าจากการที่ในช่วงเวลากว่า 5 ปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบจาก “Digital Disruption” (สภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจขึ้นมาใหม่) ซึ่งกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชีย ก็ตระหนักและมองว่านี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่องค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลงจึงสั่งเดินหน้าเตรียมความพร้อมให้กับทุกหน่วยธุรกิจในเครือ เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล 5.0 เต็มรูปแบบโดยมีการนำระบบมาร์เกตติ้ง ออโตเมชัน มาใช้กับฐานลูกค้าของกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชียกว่า 500,000 ราย รวมถึงลูกค้าผู้มุ่งหวังกว่า 700,000 ราย เพื่อวิเคราะห์และยกระดับการสื่อสาร พร้อมสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างบริการแบบใหม่ที่ง่ายและสะดวกสุดยอด!!!อัลคาโปนmotorwars@thairath.co.th