“นครพนม” เป็นจังหวัดที่มี 12 อำเภอ...โดย 7 อำเภอมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ 7 องค์ 7 แห่ง แต่ละแห่งมีจักรราศี ที่เหมาะกับคนเกิดตรงกับวันหนึ่งในรอบสัปดาห์ จนเป็นที่มาของกิจกรรมไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ด้วยเชื่อว่า...เกิดมาชาติหนึ่งได้ไหว้พระธาตุประจำตนสักครั้งหนึ่ง...ก็เท่ากับได้เสริม “มงคล” ให้กับตนตลอด “ชีวิต”“พระธาตุพนม” อันศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งโขง อ.ธาตุพนม มาตั้งแต่ปี พ.ศ.1200-1400 คือพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิด ...“วันอาทิตย์” ที่สามารถหนุนนำชะตาชีวิตให้รุ่งเรือง ได้เหมือนอายุอันยืนยาวขององค์พระธาตุ แม้โบราณสถานดังกล่าวจะเคยประสบเหตุการณ์เกินคาดคิดมาก่อนเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 ที่พลันล้มพังทลายลงมา กระชากหัวใจให้คนไทยคนลาวร่ำไห้ระงม จนการบูรณะแล้วเสร็จความโศกถึงค่อยหายไป ครั้งนั้น...ได้พบมนต์ขลังที่ใครแอบหยิบเศษอิฐธุลีดินพระธาตุไปเก็บเป็นเจ้าของเป็นต้องนำกลับมาคืนทุกราย เพราะทนรับกับสิ่งอัปมงคลไม่ไหว ด้วยเชื่อว่า...นี่คือแรงพลังอำนาจจากพระธาตุพนม คนเกิด “วันจันทร์” ต้องไหว้พระธาตุเรณู อ.เรณูนคร ที่สร้างเมื่อปี 2461 แต่เกิดอาถรรพณ์ถูกฟ้าผ่าพังก่อนการสมโภช จนต้องสร้างใหม่และเสร็จในปี 2463 โดยมี “พระองค์แสน” พระพุทธรูปที่มีคุณด้านขจัดภัยรวมถึงข้าศึกศัตรู... คนเกิด “วันอังคาร” ให้ไปไหว้พระธาตุศรีคุณ อ.นาแก ที่มีการค้นพบขณะเป็นซากโบราณร้างเมื่อปี 2340 สันนิษฐานว่าสร้างโดยกษัตริย์นักรบ ยุคสงครามระหว่างอาณาจักรล้านช้างกับขอมคนเกิดวันนี้จึงเสมือนนักต่อสู้ที่เหมาะกับบูชาพระธาตุองค์นี้ คนเกิด “วันพุธกลางวัน” ให้ไหว้พระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก ที่ให้คุณด้านทำการใดก็ประสบชัยชนะ และได้ชื่ออีกว่าคือมือประสานสิบทิศ สามารถแก้ปมปัญหาได้สารพัดแต่ใครเกิด “วันพุธ กลางคืน” ให้ไหว้พระธาตุมรุกขนคร บริวารพระธาตุพนมที่สร้างเมื่อปี 2536 บนพื้นที่ อ.ธาตุพนม ปัจจัยบูชาพระธาตุองค์นี้คือ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกบัว ธูป 17 ดอก เทียน 2 เล่ม คนเกิด “วันพฤหัสบดี” ดวงชะตาต้องโฉลกกับพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า เดิมเป็นพระธาตุโบราณถูกทิ้งร้างในพงไม่มีคนสนใจ จนมีชาวญ้อหนีการสู้รบระหว่างล้านช้างจากเวียงจันทน์กับพม่าและเชียงใหม่มาพบเข้าจึงได้รับการบูรณะเมื่อปี 2112...“พระธาตุองค์นี้ให้คุณด้านการงาน” พระสมองขันติโก ผู้ดูแลอำนวยความสะดวกคนที่มาสักการะพระธาตุ ว่า “ข้าราชการจะนิยมมาบน ขอตำแหน่งที่สูงขึ้น และบางคนมาขอโยกย้ายสลับที่อยู่ใหม่แล้วมักได้สมหวัง...โยมผู้หญิงส่วนใหญ่จะมาไหว้ขอลูกก็ได้ลูกตามที่ขอ คนอื่นๆ จะมาขอพรคุ้มครองความปลอดภัย แต่ใครจะมาขออะไรก็ตาม สำคัญสุดคือต้องเป็นผู้มีใจบริสุทธิ์ ไม่ติดอยู่กับความประพฤติชั่ว เพราะคนพวกนี้พระธาตุไม่พึงปรารถนาที่จะประทานให้” “พระธาตุประสิทธิ์” มีงานสมโภชทุกปีในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 4 มีนาคม โดยวันนั้นชนเผ่าที่มีอยู่ใน อ.นาหว้า ได้แก่ เผ่าญ้อ ผู้ไท ไทยแสก และลาวกะเลิงจะพร้อมใจกันแต่งชุดประจำเผ่ามาร่วมพิธีบูชาแล้วก็มาถึงคนเกิด “วันศุกร์” ต้องไหว้พระธาตุ ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน สร้างเมื่อปี 2455 สำเร็จปี 2459 โดยหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน (สุวรรณมาโจ) พระผู้ได้รับฉายานักบุญแห่งลุ่มน้ำโขง “ปาฏิหาริย์หลวงปู่มีมาก” ปราโมทย์ มาตย์เมือง กรรมการวัดวัย 71 ปี บอก “พ่อเคยเล่าให้ฟัง ...ครั้งหนึ่งหลวงปู่จะไปร่วมงานบุญที่บ้านหินปูน เมืองท่าแขก ประเทศลาว ฝั่งตรงข้ามวัดพระธาตุท่าอุเทน โดยหลวงปู่ขอให้ญาติโยมอาศัยเรือยนต์ข้ามไปก่อน พอคณะญาติโยมไปถึงบ้านหินปูนกลับพบว่าหลวงปู่ไปถึงที่นั่นก่อนแล้ว ทุกคนไม่มีใครสงสัยด้วยเข้าใจดีในญาณวิเศษที่หลวงปู่มีอยู่ประจำตน”สุดท้ายคนเกิด “วันเสาร์” ให้ไปไหว้พระธาตุนคร อยู่กลางอำเภอเมืองนครพนม บนถนนสุนทร-วิจิตร ริมฝั่งโขง ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2465 และเป็นความเชื่อที่ว่าใครไหว้แล้วจะเติบใหญ่ในหน้าที่การงาน เป็นเจ้าคนนายคนด้วยบุญบารมีที่ได้รับเป็นอานิสงส์ พระประยูร จารณสัมปันโน เล่าว่า อดีตเคยมีคนเห็นพญานาคสีเผือกที่ดูแลพระธาตุมาปรากฏให้เห็นหน้าวัด กับเมื่อคราวบูรณะพระธาตุก็พบงูลำตัวสีดำขนาดใหญ่ขดตัวอยู่ โดยเชื่อว่าเป็น “งูเจ้าที่”...ที่สถิตอยู่ตรงนั้นและ...มีปาฏิหาริย์ที่คนเฒ่าคนแก่เล่ากันว่า เหนือองค์พระธาตุมักมีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงคืน คือจะมีลูกแก้วลอยเป็นรัศมีส่องสว่างเป็นรูปวงกลม ไม่นานก็จะลอยจากไปและจะกลับมาอีกครั้งช่วงประมาณตี 4 คน...สมัยนั้นมั่นใจว่าเป็นเทวดาที่ปกปักรักษาพระธาตุนคร“โลกธรรม”...น้อมนำให้คนมองเห็นธรรมด้วยจิตบริสุทธิ์เป็นมงคลแก่ชีวิต “ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อ อย่างไรโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.รัก-ยม