ผู้ขับขี่รถยนต์หลายคนคงเคยโดนตำรวจปรับเงินข้อหาทำผิดกฎจราจร บางคนโดนปรับเงินเยอะ บางคนก็น้อย แต่มีชายคนหนึ่งที่ประเทศ “สวิตเซอร์แลนด์” โดนศาลสั่งปรับเงิน 12,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 400,000 บาท ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด และถ้าทำผิดอีกครั้งภายใน 3 ปีข้างหน้า ก็จะโดนปรับเงินอานถึง 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.5 ล้านบาท!สื่อท้องถิ่นสวิสรายงานว่า เรื่องนี้เกิดขึ้น ที่นคร “โลซานน์” ชายคนหนึ่งที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ ถือสัญชาติฝรั่งเศสและเป็นหนึ่งในบุคคลร่ำรวยที่สุด 300 คนของสวิส โดยมีทรัพย์สินหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ชายคนนี้ถูกบันทึกว่า ขับรถด้วยความเร็ว 77 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในพื้นที่ที่จำกัดความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว และ ศาลนคร “โลซานน์” เพิ่งสั่งลงโทษปรับเงินชายคนนี้เป็นเงินจำนวน ดังกล่าวขณะที่สถิติถูกปรับเงินสูงสุดเพราะละเมิดกฎจราจรในสวิตเซอร์แลนด์เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 เมื่อมหาเศรษฐีคนหนึ่งซิ่งรถเฟอร์รารีด้วยความเร็วเกินพิกัดที่เมือง “แซงต์ กัลเลน” และโดนศาลสั่งปรับเงินถึง 290,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 9.3 ล้านบาท!สาเหตุที่อัตราค่าปรับไม่เท่ากันนั้นเนื่องจากสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีกฎหมายปรับเงิน โดยพิจารณาจากสถานะการเงินของผู้กระทำผิด ยิ่งรวยก็จะยิ่งถูกปรับเงินมาก ขณะที่คนรายได้น้อยเมื่อละเมิดกฎหมายจราจรที่ไม่รุนแรงอาจติดคุกเป็นเวลา 1 คืนเพื่อเป็นการลงโทษ โดยเมื่อปี 2550 กลุ่มกาชาดเพื่อความปลอดภัยแห่งสวิสเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายเพื่อลงโทษปรับเงินบรรดาเศรษฐีที่ละเมิดกฎจราจรให้หนัก เพราะคนเหล่านี้มักทำผิดกฎเป็นประจำ ซึ่งรัฐบาลสวิสก็ออกกฎหมายนี้ในปี 2553 และเศรษฐีที่โดนปรับเงินกว่า 9 ล้านบาทเป็นคนรวยกลุ่มแรกๆ ที่โดนลงโทษตามกฎหมายฉบับนี้สำหรับประเทศอื่นๆที่มีกฎหมายปรับเงินตามฐานะการเงินของผู้กระทำผิด ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรีย และประเทศกลุ่มนอร์ดิก อาทิ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน.ผู้เล็กน้อยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม