คนเราไม่ได้แก่แล้วตาย แต่แก่แล้วใช้ชีวิตต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี แทนที่จะกังวลว่าโลกกำลังถดถอย เพราะประชากรโลกแก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว ลองพลิกมุมคิดใหม่ว่า นี่คือโอกาสทองทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดของยุคหรือเปล่ามองดูรอบตัวตอนนี้จะเห็นผู้สูงวัยที่ใช้ชีวิตอย่างแอ็กทีฟเต็มไปหมด คุณพ่อวัย 80 ยังปั่นจักรยานตอนเช้า คุณป้าสูงวัยยังยืดเหยียดคล่องตัวในคลาสโยคะ คุณลุงเปิดร้านกาแฟใหม่ตอนอายุย่าง 70 พวกเขาคือประชากรที่ยังใช้จ่ายเงิน, สนุกกับการเดินทาง, ชอบเรียนรู้ และอยากใช้ชีวิตให้มีคุณภาพที่สุดแม้อายุจะล่วงเลยเลข 6 ไปไกลแล้ว นี่คือฐานพลังเศรษฐกิจใหม่ที่เข้มแข็ง ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างเงียบๆแต่ทรงพลังที่สุดจากรายงานล่าสุด “Future-Proofing the Longevity Economy” ของ “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม” บ่งชี้ว่าประชากรโลกกำลังแก่ตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยคนที่มีอายุเกิน 65 ปี จะแซงหน้าคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า จินตนาการไว้ล่วงหน้าเลยว่าอนาคตจะมีแต่คนสูงวัยเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด เพราะเด็กเกิดน้อย และคนรุ่นใหม่ไม่แต่งงานปรากฏการณ์ใหม่ของโลกที่กลุ่มผู้สูงอายุจะครองเมืองในทุกพื้นที่ของโลกเป็นครั้งแรกในปี 2050 โดยทั่วโลกจะมีจำนวน ผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป มากกว่า 2,100 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของประชากรโลก กลายเป็น ตัวขับเคลื่อนโลกสู่ “เศรษฐกิจสูงวัย” (Silver Economy) และ เศรษฐกิจอายุยืนยาว (Longevity Economy)การขยายตัวของกลุ่มคนสูงอายุอย่างกว้างขวางทั่วโลกนี่เอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนขั้วของเจเนอเรชันที่ทรงอิทธิพล จาก “กลุ่มมิลเลนเนียลส์รุ่นใหม่” ย้ายมาเป็น “กลุ่มผู้สูงวัย” เพราะคุณลุง คุณป้าทั้งหลายยังกุมอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองไว้เหนียวแน่น แถมมีเงินเหลือเฟือในการใช้จ่าย เมื่อเทียบกับคนทุกกลุ่มคำว่า “แก่” จะไม่เท่ากับ “ความถดถอย” อีกต่อไป ถึงเวลาสร้างมุมมองใหม่เกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุแล้ว แทนที่จะมองว่าเป็นภาระเหมือนแต่ก่อน หรือติดภาพจำเดิมๆว่าคนแก่ไม่สนใจเทคโนโลยี, ล้าหลัง และไม่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเศรษฐกิจอายุยืนยาว (Longevity Economy) คือตลาดใหม่แสนหอมหวานที่กำลังเป็นที่จับตามอง อยู่ที่ว่าใครจะค้นหาเจอก่อนว่า ผู้สูงอายุยุคนี้ต้องการอะไรมากที่สุด แล้วสามารถเสิร์ฟประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆให้พวกเขาได้อย่างโดนใจเปิดใจให้กว้างแล้วจะพบว่ามีโอกาสอยู่เยอะแยะจากตลาดผู้สูงวัย เช่น “ธุรกิจสุขภาพ” เวชศาสตร์ชะลอวัย และการตรวจยีนเพื่อป้องกันโรค “ธุรกิจการเงิน” กองทุนเพื่อวัยเกษียณ และที่ปรึกษาการเงินเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ “ธุรกิจประกัน” ประกันชีวิตเพื่อวัยเก๋า “ธุรกิจอสังหาฯ” การสร้างซีเนียร์ ลิฟวิ่ง คอมมูนิตี้ ที่ไม่ใช่ แค่บ้านพักคนชรา “ธุรกิจท่องเที่ยว” จัดทริปท่องเที่ยวเน้นสุขภาพ และทริปไหว้พระ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุอีกมากที่เป็นที่ต้องการ เช่น สมาร์ทโฮมสำหรับผู้สูงวัย, อุปกรณ์ติดตามสุขภาพ, หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงวัย และรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้สูงอายุ ล่าสุดในเมืองไทยมีบริการลูกหลานให้เช่า เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนสูงวัยคนไทยทั่วไปยังติดภาพว่า “แก่” คือความถดถอยล้าหลัง แต่ในหลายประเทศยกย่อง “การมีอายุยืนยาว” ว่าเป็นทรัพยากรล้ำค่าของประเทศ เพราะสั่งสมไปด้วยประสบการณ์ “ญี่ปุ่น” สร้างเมืองต้นแบบสำหรับผู้สูงวัย ขณะที่ “สิงคโปร์” จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อผู้สูงวัยที่ยังแอ็กทีฟในทุกมิติ แม้แต่ “แอปเปิล” ก็จับมือคลินิกสุขภาพเปิดตัวฟีเจอร์สำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะโจทย์ใหญ่ที่สุดก็คือ ทำยังไงจึงจะเปลี่ยนสังคมผู้สูงอายุที่เป็นภาระหนักอึ้งของประเทศ ให้กลายเป็นสังคมอยู่ดีมีสุขอย่างถ้วนหน้า ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้.มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม