ตั้งแต่ ค.ศ.2014 สหภาพยุโรปหรืออียูออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้วมากถึง 18 ชุด ชุดที่ 1 (มีนาคม 2014) เริ่มแซงก์ชันการเดินทางและอายัดทรัพย์สินบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติไครเมีย ชุดที่ 2 (เมษายน 2014) ขยายการแซงก์ชันไปยังธุรกรรมทางการเงินและบริษัทรัสเซียหลายแห่ง ชุดที่ 3 (กรกฎาคม 2014) แบนการส่งออกอาวุธ ควบคุมน้ำมัน และห้ามจ่ายพันธบัตรระยะยาวอียูคว่ำบาตรรัสเซียแรงขึ้นเรื่อยๆ ชุดที่ 4-10 (2015-2017) ชุดที่ 11 (2023) ชุดที่ 12-15 (2024) ชุดที่ 16-18 (2025) ชุดล่าสุดอียูประกาศคว่ำบาตรเมื่อ 18 กรกฎาคม 2025อียูแซงก์ชันรัสเซียชุดที่ 18 แล้วก็โม้ว่ามาตรการนี้โจมตีเศรษฐกิจ พลังงาน ธนาคาร และภาคอุตสาหกรรมทหารรัสเซียจะต้องหงายท้องน้องนุช แซงก์ชันล่าสุดของอียูคือด้านพลังงาน 1.ลดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียจาก 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือ 47.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือประมาณร้อยละ 15 ต่ำกว่าราคาตลาดเฉลี่ย 2.คว่ำบาตรโครงข่ายกองเรือเงา (Shadow Fleet) เพิ่มอีก 105 ลำ (รวมเป็น 444 ลำ) ห้ามเรือเงาพวกนี้เทียบท่าอียูและขยายรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งกัปตัน เรือธง และรายชื่อหน่วยงานที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเรือเงา3.ห้ามนำเข้าก๊าซจากท่อก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 + ห้ามให้บริการจัดหาหรือบำรุงรักษาท่อก๊าซ และ 4.แบนการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซียผ่านประเทศที่สาม ยกเว้นแคนาดา นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ และเป็นครั้งแรกที่อียูคว่ำบาตรโรงกลั่นน้ำมันในอินเดีย ซึ่งเป็นโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท Rosneft ผู้ผลิตน้ำมันเจ้าใหญ่ของรัสเซียอียู 1.แบนธุรกรรมเต็มรูปแบบกับธนาคารรัสเซียอีก 22 แห่ง 2.ห้ามทำธุรกรรมทุกประเภทกับกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย หรือ Russian Direct Investment Fund (RDIF) และบริษัทในเครืออียูโจมตีด้านอุตสาหกรรมทหารและเทคโนโลยีของรัสเซียด้วยการแซงก์ชันบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทหารของรัสเซีย รวมทั้งผู้ส่งออกเทคโนโลยี dual-use ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหรือสินค้าใดๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในทางพลเรือนและทางการทหาร จากจีน 3 แห่ง และบริษัทในเบลารุสอีก 8 แห่งอียูบอกว่า อ้า รัสเซีย ข้าฯขออนุญาตกดและดันท่านนะจ๊ะ หลังจากนั้นอียูก็ขึ้นบัญชีดำ 14 บุคคล + 41 องค์กร เป็น 55 รายชื่อใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีอูเครน ทำให้จำนวนผู้อยู่ในบัญชีแซงก์ชันของอียูทะลุ 2,500 รายคำประกาศคว่ำบาตรของอียูทำให้ไอ้ปื๊ด อีเปี๊ยก หัวเราะเอิ๊กอ๊าก โอย เอ็งไปขโมยบาตรพระมาคว่ำแล้ว 17 รอบ ทว่า อ้า ยิ่งคว่ำเศรษฐกิจรัสเซียก็ยิ่งดีวันดีคืน ปีที่แล้วจีดีพีรัสเซียโตร้อยละ 4.3 ทว่าข้าฯสมเพชเวทนาพวกเจ้าอียูมากว่ะ จีดีพีเขตยูโรโซนของเอ็งโตเพียงร้อยละ 0.7 เศรษฐกิจอียูถูลู่ถูกัง ทุรังทุเรศนายคิรีล ดมิทริเยฟ ผู้ดำรงสถานะ 1.ทูตพิเศษของประธานาธิบดี รัสเซียด้านการลงทุนจากต่างประเทศและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และ 2.ซีอีโอของกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซียเขียนข้อความลงเทเลแกรมว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 18 ของสหภาพยุโรปส่งผลเสียต่อประเทศในอียูมากกว่ารัสเซียประธานาธิบดีปูตินและดมิทริเยฟยักคิ้วข้างซ้าย ย้ายไปยักคิ้วข้างขวา และบอกกะอียูว่า “รัสเซียมีภูมิคุ้มกันต่อแซงก์ชัน การคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลร้ายหงายท้องกับผู้ประกอบการในอียูมากกว่า ฮ่าๆ อียู เอ็งมันประเทศไอ้ปื๊ด”ผู้อ่านท่านครับ เดิมมาตรการแซงก์ชันของอียูเคยมีผลต่อรัสเซียทั้งด้านเทคโนโลยีและภาคการส่งออกพลังงาน แต่รัสเซียปรับตัวได้อย่างรวดเร็วผ่านการมุ่งเป้าสู่เอเชียและการพัฒนากลุ่มบริกส์“คว่ำบาตรรัสเซีย พวกเอ็งอียูน่ะจะตายเอง พวกเอ็งเป็นประเทศเล็ก ไม่มีทรัพยากร น้ำมัน ก๊าซอะไรก็ไม่มี เยอรมนีประเทศที่แพ้สงครามโลกมาแล้ว 2 รอบ คราวนี้ยังไม่เข็ดหลาบสาบจำ ตอนนี้เป็นไง เศรษฐกิจเอ็งถดถอยห้อยต่องแต่ง”“คว่ำบาตรรัสเซียมา 11 ปี กะจะให้รัสเซียตาย ผลสุดท้าย อียูกลับจะตาย ไม่มีจะกิน ไม่มีพลังงานใช้ สมองน่ะมีไหม สมองอยู่ไหน อียู”.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม