สืบราชการลับของอังกฤษมีหน่วยข่าวกรองที่สำคัญ 4 หน่วย คือ GCHQ (ดักฟังและสื่อสารข่าวกรองทางเทคนิค) MOD Intelligence (ข่าวกรองทางทหาร) MI 5 (ข่าวกรองในประเทศ) และ MI 6 (SIS) (ข่าวกรองนอกประเทศ)MI 6 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัฐบาลอังกฤษที่มีบทบาทสำคัญที่สุด ทำงานร่วมกับ CIA (สหรัฐฯ) Mossad (อิสราเอล) และ DGSE (ฝรั่งเศส) ผมเคยไปฟังอาจารย์ท่านหนึ่งบรรยาย ท่านเรียกหน่วยงานนี้ว่าเอ็ม 16 ขอโทษครับ ไม่ใช่เอ็ม 16 ไอ้นั่น มันคือปืนไรเฟิลจู่โจม โปรดเรียกให้ถูกต้องว่า ‘เอ็ม-ไอ-ซิกซ์’15 มิถุนายน 2025 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายเคียร์ สตาร์เมอร์ แต่งตั้งนางเบลซ เมโทรเวลลี เป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองลับ MI 6 ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยให้เริ่มทำงานในตำแหน่งนี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2025 นางเมโทรเวลลีเป็น ‘ผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์’ ที่ดำรงตำแหน่ง C ใน MI 6 (ตัวอักษร C มาจาก Chief ที่หมายถึงหัวหน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงาน)นายคอนสแตนติน โดโบรโวลสกี ปู่ของนางเมโทรเวลลี เคยทรยศต่อสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นประเทศของตนเองในสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งในขณะนั้นโซเวียตรบกับเยอรมนี ปู่ของนางเมโทรเวลลีจับมือกับเยอรมนีฆ่าชาวยิวและก่ออาชญากรรมในอูเครนผมตระเวนขับรถไปตามเมืองต่างๆของอูเครนเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่จะเกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน ไปขอพักตามบ้านผู้คนและยังได้ไปเจอและขอซื้อบัตรประจำตัวลับของทหารเยอรมนีที่เคยแอบมาอยู่กับชาวบ้านในอูเครนได้มาหลายเล่มค.ศ.1943 สงครามโลก ครั้งที่ 2 ยังไม่จบ ปู่ของนางเมโทรเวลลีก็ตาย ลูกชายของแกเปลี่ยนชื่อเป็นคอนสแตนติน เมโทรเวลลี และไปขอรับความช่วยเหลือจากอังกฤษเพื่อรับ สัญชาติฮ่องกง (ตอนนั้นอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ)30 กรกฎาคม 1977 นายคอนสแตนติน เมโทรเวลลี ลูกของอดีตคนโซเวียตทรยศ มีลูกสาวชื่อ ด.ญ.เบลซ ฟลอเรนซ์ เมโทรเวลลี ภายหลังเด็กหญิงคนนี้จบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และฝึกพูดภาษาอาระบิกจนชำนาญขณะเป็นสายลับระดับต้นและกลาง นางเมโทรเวลลี ถูกส่งไปปฏิบัติงานในยุโรปและตะวันออกกลางอยู่นานกว่า 20 ปี มีผลงานโดดเด่นและเป็นสายลับที่แข็งแกร่งที่สุด คนหนึ่งของสหราชอาณาจักรมีหลายคนกังวลใจว่านางเมโทรเวลลีอาจจะมีเลือดการทรยศหักหลังประเทศของตนเองมาจากปู่ (นายโดโบร โวลสกี) และอาจจะมีการต่อต้านจากผู้ร่วมงานซึ่งเป็นใหญ่เป็นสายลับระดับต่างๆ แต่คนจำนวนไม่น้อยก็เห็นพ้องต้องกัน ว่า ไม่ควรจะนำครอบครัวในอดีตมาเกี่ยวกับการทำงานของหลานในสงครามโลกครั้งที่สอง โซเวียต จีน สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา ฯลฯ อยู่ฝ่ายเดียวกันคือ ‘ฝ่ายสัมพันธมิตร’ ต่อสู้กับ ‘ฝ่ายอักษะ’ ที่มีเยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น ฯลฯ เมื่อสงครามจบใน ค.ศ.1945 คนอูเครนที่แทงหวยว่าฮิตเลอร์จะชนะ และทรยศโซเวียตด้วยการไปช่วยเยอรมนีจำนวนไม่น้อยจึงต้องหนีสำนักข่าวกรองแห่งสหรัฐฯ หรือซีไอเอไปค้นประวัติคนอูเครนเหล่านี้และขอให้มาร่วมงานกับซีไอเอ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านและทำลายโซเวียต ส่วนคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือก ก็พาญาติพี่น้องอพยพไปอยู่แคนาดาผมไปแคนาดาเมื่อธันวาคม 2019 และมกราคม 2020 มีคนเอาตัวเลขชาวแคนาดาเชื้อสายอูเครนเปิดให้ดู ปรากฏว่า มีมากถึง 1,258,635 คน ประมาณร้อยละ 3.5 ของประชากรแคนาดา เป็นชาวแคนาดาที่มีเชื้อสายอูเครน.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม