ระหว่างวันที่ 9–13 มิ.ย.นี้ จะมีการจัดประชุมสหประชาชาติว่าด้วยมหาสมุทรครั้งที่ 3 (UNOC) โดยมีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพร่วมกับคอสตาริกาการประชุมประจำปี 2568 มีขึ้นภายใต้แนวคิด We Are Ocean หรือพวกเราคือมหาสมุทร มีเป้าหมายหลักในการผลักดันมาตรการเชิงรูปธรรม เพื่อการอนุรักษ์และปกป้องมหาสมุทร ทั้งถือเป็นเวทีสำคัญที่ประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลจากกว่า 110 ประเทศเข้าร่วม ตลอดจนภาควิชาการ วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และประชาสังคมวาระสำคัญประกอบด้วย 1.การผลักดันสนธิสัญญา BBNJ คุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่นอกเขตอธิปไตยของชาติต่างๆ ซึ่งต้องการการให้สัตยาบันจาก 60 ประเทศ แต่ตอนนี้ได้เพียง 28 ประเทศ2.การระดมทุนเพื่อการอนุรักษ์ ที่หวังว่าจะสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ต่างๆและการใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรอย่างยั่งยืน ไปจนถึงการเปิดตัวพันธบัตรสีน้ำเงิน (Blue Bonds) และกองทุนเพื่อการลงทุนในระบบนิเวศชายฝั่งและทะเล3.เชื่อมโยงการอนุรักษ์มหาสมุทรควบคู่ไปกับการรับมือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง รวมถึงการเตรียมความพร้อมจัดประชุมโลกร้อน COP30 ระหว่างวันที่ 10-21 พ.ย.ปลายปี ที่ประเทศบราซิลโดยกรณีนี้รัฐบาลฝรั่งเศสเล็งเห็นว่า “ประเทศไทย” มีบทบาทสำคัญยิ่งในอาเซียน และเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ลงนามในความตกลง ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ว่าด้วยการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐหากไทยตัดสินใจเข้าร่วมภาคีในการประชุมรอบนี้ ย่อมได้รับประโยชน์จากกลไกต่างๆภายใต้ BBNJ โดยเฉพาะการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมทางทะเลในพื้นที่นอกเขตอำนาจรัฐ และทรัพยากรพันธุกรรมทางทะเลเพื่อการวิจัย การเสริมสร้างขีดความสามารถและถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทะเล ซึ่งถือเป็นโอกาสของไทยในการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการทำงานในด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล สอดคล้องกับเป้าหมาย SGD14ก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสเห็นความมุ่งมั่นของไทย หลังจากได้ร่วมมือกันปกป้องมหาสมุทร ร่วมมือในการส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน การจัดการขยะพลาสติกในทะเล และการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งฝรั่งเศสได้สนับสนุนโครงการวิจัยและอนุรักษ์สัตว์ทะเลผ่านเครือข่ายวิทยาศาสตร์ของไทย.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม