11 มีนาคม 2025 มีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากรีนแลนด์ พรรคเดโมกราอัต Demokraatit (ภาษา Greenlandic หรือภาษา Kalaallisut ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองของกรีนแลนด์) นายเยนส์ เฟรเดอริก นีลเซน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีนแลนด์เมื่อ 28 มีนาคม 202526 เมษายน 2025 นายกรัฐมนตรีนีลเซน บินไปถึงเมืองหลวงของเดนมาร์กเพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างกรีนแลนด์กับเดนมาร์ก นายนีลเซนยืนคู่กับนายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก นางเมตเต เฟรเดอริกเซน และประกาศร่วมกันว่า “เราโดนผลักเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นโยบายต่างประเทศของประเทศหนึ่ง (หมายถึงสหรัฐฯ) เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น”“ชาวกรีนแลนด์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตแผ่นดินของตนเอง” ประโยคนี้สื่อถึงการเลือกว่าการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ตามที่สหรัฐฯต้องการหรือการเป็นชาติรัฐอิสระแห่งใหม่ หรือยังคงเป็นดินแดนปกครองตนเองภายใต้ราชอาณาจักรเดนมาร์กอย่างในปัจจุบันการเป็น Autonomous Territory หรือเป็นดินแดนปกครองตนเองฯ กรีนแลนด์ก็มีอิสระ มีรัฐบาลของตนเองที่บริหารงานภายในประเทศเอง มีรัฐสภาของตัวเองที่เรียกว่า Inatsisartut ออกเสียงว่า อินัตซีซาร์ซุต ที่สามารถออกกฎหมายได้แทบทุกเรื่องในประเทศของตนเอง มีนายกรัฐมนตรีของตนเอง เดนมาร์กเพียงดูแลด้านการต่างประเทศ กลาโหม และนโยบายการเงินหลักของกรีนแลนด์ แถมคนจากกรีนแลนด์ยังไปนั่งในรัฐสภาของเดนมาร์กได้จำนวน 2 ที่นั่งกรีนแลนด์มีสิทธิประกาศเอกราชเป็นประเทศของตนเองในอนาคต หากประชาชนลงมติสนับสนุน ซึ่งผมคิดว่าในอนาคตถ้าพร้อม ประชาชนชาวกรีนแลนด์ก็อาจจะลงมติสนับสนุนตั้งประเทศเอกราชของตนเองแน่นอนเดนมาร์กเริ่มตั้งอาณานิคมในเกาะกรีนแลนด์เมื่อ ค.ศ.1721 หรือ 304 ปีมาแล้ว พอถึง ค.ศ.1953 ก็เลิกเป็นอาณานิคม และเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กอย่างเป็นทางการ ค.ศ.1979 ได้รับสิทธิ Home Rule หรือสิทธิในการปกครองตนเอง ค.ศ.2009 ขยายอำนาจเป็นการปกครองตนเองอย่างกว้างขวาง มีอำนาจบริหารส่วนใหญ่เอง ยกเว้นการต่างประเทศ กลาโหม และการคลังจันทร์ 28 เมษายน 2025 สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 10 แห่งเดนมาร์ก เสด็จเยือนกรีนแลนด์อย่างเป็นทางการ โดยเดินทางร่วมกับนายนีลเซน ซึ่งมาเยือนเดนมาร์กก่อนหน้านี้ โดยเดินทางไปเยือนกรุงนู๊ก เมืองหลวงของกรีนแลนด์ และวันรุ่งขึ้นก็ไปเยือนชุมชนคาพิซิลลิต วันสิ้นเดือนเมษายน ก็ไปเยือนมหาวิทยาลัยกรีนแลนด์และสถานีวิจัยทางทหาร Station Nord 1 พฤษภาคม 2025 ก็ไปร่วมกิจกรรมกับหน่วยลาดตระเวนสุนัขลากเลื่อนสหรัฐฯอยากได้กรีนแลนด์เป็นรัฐที่ 51 ตั้งแต่สิงหาคม 2019 ระหว่างวันที่ 15 ทรัมป์พูดกับที่ปรึกษาทำเนียบขาวว่าอยากซื้อกรีนแลนด์จากเดนมาร์ก วันที่ 20 ทรัมป์พูดกับผู้สื่อข่าวทำเนียบขาว วันที่ 21 ทรัมป์โพสต์รูปตลกในทวิตเตอร์ เป็นรูปอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ตั้งอยู่ในกรีนแลนด์เวลาผ่านไป 6 ปี พอเป็นประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ทรัมป์ก็ยกประเด็นการอยากได้กรีนแลนด์มาพูดอีก พอถึงเดือนมีนาคม 2025 ทรัมป์ก็ส่งรองประธานาธิบดี นายแวนซ์และภริยาไปเยือนกรีนแลนด์อย่างเป็นทางการ ระหว่างเยือน แวนซ์วิจารณ์เดนมาร์กว่า “เดนมาร์กไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประชาชนกรีนแลนด์อย่างเพียงพอ” ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ เดนมาร์ก และกรีนแลนด์การที่คนกรีนแลนด์เลือกพรรคเดโมกราอัตของนายนีลเซนเป็นรัฐบาลก็เพื่อยืนยันว่า คนกรีนแลนด์ไม่ต้องการไปอยู่กับสหรัฐฯ ยังคงอยากอยู่กับเดนมาร์ก และเป็นไปได้ที่ต่อไปในอนาคตก็อาจจะลงประชามติตั้งประเทศเอกราชมกราคม 2025 ตอนนั้นยังเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์จัดแถลงข่าวที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโก ที่ฟลอริดา เล่าถึงความ ต้องการเกาะกรีนแลนด์และคลองปานามา โดยไม่ปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทหารหรือการกดดันทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายอาณาเขตของสหรัฐฯเดนมาร์กเป็นประเทศเล็กมีพื้นที่เพียง 4.2 หมื่นตารางกิโลเมตร (ไม่รวมผืนน้ำ) เล็กกว่าภาคตะวันออกของไทย มีประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน เรื่องกำลังทหารไม่ต้องพูดถึง เป็นกองทัพที่เล็กกระจิริดกระจ้อยร่อย ถ้าทรัมป์ใช้กำลังทหารยึดเกาะกรีนแลนด์จริงๆ เดนมาร์กก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งมองตาปริบๆกษัตริย์เดนมาร์กเสด็จเยือนกรีนแลนด์ครั้งนี้ มีนัยสำคัญ ยืนยันว่า อ้า กรีนแลนด์เป็นของเดนมาร์กของแท้.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม