กระแสความนิยมของเกมค่ายจีน Black Myth : Wukong นอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจแก่ฝั่งจีนที่กำลังพยายามป้อนเกมระดับทริปเปิลเอ (AAA) ออกสู่ตลาดแล้วยังสร้างกระแสความสะใจแก่บรรดานักเล่นเกมตัวยง หรือเหล่า “เกมเมอร์” ไม่น้อย เนื่องด้วยทันทีที่เปิดให้เริ่มเล่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีผู้เล่นทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านคน แถมตัวเลขก็ไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น สถิติในช่วงสุดสัปดาห์ได้ขยับเป็นมากกว่า 2 ล้านคนถือเป็นตัวเลขที่ตอกหน้าบรรดานักรีวิวของชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐฯ หลังวิพากษ์วิจารณ์โจมตีเกมซุนหงอคงจากนวนิยาย “ไซอิ๋ว” ว่ามีข้อเสียสำคัญคือ “ขาดความหลากหลายทางเพศและเชื้อชาติ”ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกม (หรือภาพยนตร์) ที่ผลิตโดยบริษัทตะวันตก ได้กลายเป็นที่รับรู้กันว่า จะต้องใส่หลักการ DEI-Diversity Equity Inclusion หรือแนวคิดสนับสนุนความหลากหลายปนมาด้วย และทำให้ภายในเกมจะมีตัวละคร “คนผิวสี” คนรักร่วมเพศ คนข้ามเพศ หรือ “ผู้หญิงมั่น” ที่ต่อต้านกรอบความคิดเดิมๆของผู้ชาย มีความเรียลไซส์ บิวตี้ หรือ “คนสวยไม่จำเป็นต้องหุ่นดี” ซึ่งในช่วงแรกๆ ผู้บริโภคก็สามารถยอมรับได้ เนื่องจาก คอนเทนต์ต่างๆ ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกว่าถูกยัดเยียดจนเกินพอดีอย่างไรก็ตาม หลักการ DEI ในปัจจุบันได้ แปรสภาพไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ใส่คอนเทนต์ ความหลากหลายมาเป็น “ทางเลือก” ให้สอดคล้องไปกับเนื้อเรื่องอย่างลงตัว กลับกลายเป็นสิ่งที่ต้องทำ “ถูกบังคับให้เลือก” จนทำให้เกมค่ายตะวันตกในระยะหลังเริ่มหมดเสน่ห์ เห็นได้จากสถิติผู้เล่นอยู่ที่หลักร้อยหลักพัน มากสุดคือหลักหมื่น แต่งานนี้ก็ดูเหมือนว่า กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังจะยังไม่รู้ตัวกัน ออกมาด่าขรมว่า สาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับความนิยม เป็นเพราะผู้บริโภคมีความเหยียดผิว เหยียดเพศ ต่อต้าน LGBTQด้วยเหตุนี้ จึงเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า เหตุผลที่เกมหงอคงของค่ายจีนได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย อาจใช่ว่าเพราะเป็นเกมที่ทำออกมาได้สนุกและมีความอลังการในระดับทริปเปิลเอเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากการที่เกมถูกรุมวิจารณ์ว่าขาดความหลากหลายตามหลักการ DEI ด้วยก็เป็นได้!?ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม